Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

เฟิร์นข้าหลวง ไม้ประดับที่สวยเป็นเอกลักษณ์และเหมาะกับการปลูกในไทยที่สุด

เฟิร์นข้าหลวง

เฟิร์นข้าหลวง นับว่าเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่คนไทยเราให้ความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทั่วไปในแถบที่มีอากาศร้อน และอบอุ่น เช่นเอเชีย และออสเตรเลีย ซึ่งประเทศไทยก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดของเฟิร์นชนิดนี้ด้วย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเฟิร์นชนิดนี้ยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป อีกทั้งยังดูแลง่าย และมีขั้นตอนที่ไม่จุกจิกเกินไปด้วย

เฟิร์นข้าหลวง

เฟิร์นข้าหลวง ดูแลไม่ยาก และไม่ต้องห่วงเรื่องของอากาศที่ร้อนเกินไปด้วย

            เฟิร์นข้าหลวงเป็นไม้ประดับที่มีชื่อเรียกหลากหลายชื่อด้วยกัน เช่น เฟิร์นข้าหลวงหลังลาย, เฟิร์นรังนก หรือ เฟิร์นข้าหลวงโอซาก้า เป็นต้น และตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า เฟิร์นข้าหลวงเป็นไม้ที่เกินในแถบพื้นที่ที่มีความร้อนชื้น หรือเขตอบอุ่น ดังนั้นจึงมีหลายคนที่อาจจะสงสัยว่า เฟิร์นข้าหลวงชอบแดดไหม ก่อนอื่นเราต้องขอบอกว่า การที่เราจะพบเห็นเฟิร์นชนิดนี้ได้ตามธรรมชาตินั้น เราจำเป็นจะต้องเข้าไปในป่าที่เป็นป่าดิบชื้น หรือ ป่าฝนเขตร้อน เนื่องจากสภาพของป่าประเภทนี้จะเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเฟิร์นชนิดนี้เป็นอย่างยิ่งดังนั้นคำตอบคือ “เฟิร์นข้าหลวงไม่ชอบแสงแดดจัด” เพราะถึงแม้ว่าเฟิร์นชนิดนี้จะเกินในแถบที่มีอากาศร้อน แต่การที่เฟิร์นได้รับแดดโดยตรง หรือแดดจัดทั้งวันจะทำให้เกิดผลเสียกับเฟิร์นเป็นอย่างมาก และแสงแดดจัดก็ไม่เหมาะกับสภาพของการเจริญเติบโตของเฟิร์นชนิดนี้ด้วย

          นอกจากนี้สำหรับ การดูแล เฟิร์นข้าหลวงในเบื้องต้น สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ชนิดนี้ไว้ในสวนของบ้าน เราแนะนำให้รดน้ำให้ชุ่ม โดยควรรดทั้งช่วงเช้าและเย็น และเลือกวางตำแหน่งของกระถาง หรือตำแหน่งของการปลูกให้อยู่ในที่ที่มีร่มเงา มีความชุ่มชื่นตลอดทั้งวัน เช่นใกล้กับต้นไม้ใหญ่ บ่อปลา หรืออ่างบัว เป็นต้น ควรมีแสงแดดอ่อน ๆ ส่องถึงบ้าง สำหรับการใส่ปุ๋ย เราแนะนำให้ใส่เป็นปุ๋ยเม็ด หรือปุ๋ยละลายช้า ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายไม้ประดับ และแนะให้ใส่ 3 – 6 เดือน/ครั้ง และไม่ควรใส่ปุ๋ยในปริมาณที่มากจนเกินไป

ราคา และ 3 ร้านขายเฟิร์นข้าหลวงบน Instagram

            สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากได้เฟิร์นข้าหลวง มาปลูกประดับสวน วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับราคา และ 3 ร้านขายเฟิร์นข้าหลวงบน Instagram มาฝาก โดยเฟิร์นข้าหลวง ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 25 – 500 บาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาด และสายพันธุ์ของเฟิร์น

3 ร้านขายเฟิร์นข้าหลวงบน Instagram

เฟิร์นข้าหลวง

saiwari02 จำหน่ายเฟิร์น และบอนกระดาดยักษ์ที่มีราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น และที่สำคัญทางสวนยังมีการจัดโปรโมชั่นอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าร้านบน LAZADA อีกด้วย

เฟิร์นข้าหลวง

Sookchewagarden จำหน่ายไม้ประดับ ไม้ใบ ไม้ฟอกอากาศ รวมไปถึงเฟิร์นข้าหลวงหลายชนิดเช่นเฟิร์นข้าหลวงใบหยัก (ใบจีบ) นอกจากนี้ทางร้านยังมีหน้าร้านอยู่ที่ตลาดต้นไม้สบายใจล็อคC2-C3 ทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

เฟิร์นข้าหลวง
  • thetree.mint จำหน่ายต้นไม้ฟอกอากาศ และต้นไม้มงคลหลากหลายชนิดที่มีขนาดเล็กมินิ เหมาะกับการนำไปวางประดับไว้ในบ้าน หรือเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษเป็นอย่างยิ่ง
เฟิร์นข้าหลวง

เฟิร์นข้าหลวง ไม้ประดับที่ไม่เหมาะกับการวางประดับในพื้นที่ปิด

            เนื่องจากเฟิร์นข้าหลวงในช่วงโตเต็มวัย ใต้ใบของมันจะมีสปอร์เล็ก ๆ อยู่ ซึ่งเป็นธรรมชาติของพืชหรือตระกูลสาหร่าย เห็ดรา รวมไปถึงเฟิร์น ซึ่งสปอร์นับว่าเป็นสิ่งที่พืชเหล่านี้ใช้ในการสืบพันธุ์ และหากเมื่อเฟิร์นต้นนั้นพร้อมขยายพันธุ์มันก็จะปล่อยสปอร์ของมันลอยฟุ้งขึ้นไปในอากาศเพื่อไปเติบโตในที่ที่เหมาะสม ซึ่งสปอร์จะค่อนข้างเป็นอันตรายต่อมนุษย์ หรือสัตว์เลี้ยงบางชนิด ดังนั้นหากวางเฟิร์นชนิดนี้ไว้ในพื้นที่ปิดเช่นตัวห้อง หรืออาคารก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราและสัตว์เลี้ยงได้

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

กระดาด ไม้ประดับใบใหญ่อลังกาลที่ทุกคนต่างตามหา

กระดาด

กระดาด หากพูดถึงไม้ประดับที่มีใบใหญ่ๆ เป็นเอกลักษณ์ หลายคนก็คงจะนึกถึงต้นกระดาดเป็นอันดับแรกแน่ๆ เพราะด้วยความที่ขนาดใบมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าหน้าของเราอีก นับว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความแปลกแหวกแนวกว่าต้นอื่น ซึ่งหลาย ๆ คนก็ชอบและนิยมหาซื้อเอาไปจัดบ้านหรือแต่งสวนหย่อม ทำให้บ้านของคุณมีเย็น สบาย มีความมินิมอล นอกจากจะเป็นต้นไม้ที่นิยมแล้วยังมีราคาที่พุ่งสูงมากๆ ยิ่ง กระดาด ตัวไหนที่เป็นด่างนะ สูงถึงหมื่นก็มีมาให้เห็น มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงจะสงสัยว่าเจ้ากระดาด พันธุ์ไม้ประดับต้นนี้มีดีอะไร ทำไมถึงฮิต วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเจ้าต้นไม้ต้นนี้กัน

กระดาด พันธุ์ไม้ยักษ์ที่กำลังเป็นที่ต้องการ

กระดาด

กระดาดหรือที่หลายๆ คนชอบเรียกว่า บอนกระดาด มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นไม้ล้มลุก ที่มีเหง้าอยู่ตามพื้น ลำต้นของมันก็จะตรง โดยจะสูงไม่มากเท่าไหร่ จะสูงประมาณ 1 – 2 เมตร ส่วนใบจะเป็นใบเดี่ยว ที่ออกมาจากดิน มีลักษณะกลม โคนเว้าเข้า เหมือนเป็นรูปหัวใจ ซึ่ง ขนาด ใบกระดาด นั้นจะมีขนาดใหญ่มาก สามารถกว้างได้มากถึง 60 เซนติเมตร ยาวประมาณ 90 เซนติเมตร ก้านจะมีสีม่วงปนน้ำตาล สำหรับต้น กระดาดจะเป็นไม้ที่ออกดอกเป็นช่ออยู่ตรงกลางต้น และมีผลสดเป็นผลนุ่มสีแดง ลักษณะเหมือนเมล็ดอยู่ข้างใน

วิธี การปลูกกระดาด ปลูกได้แบบไม่ยาก

1.ขั้นตอนแรกเตรียมดินให้พร้อม โดยควรใช้ดินที่เป็นดินเหนียว แล้วขุดหลุมขนาดกว้าง 30 ซม. ลึก 30 ซม. และยาว 30 ซม. และเมื่อขุดเสร็จแล้วก็นำปุ๋ยมาไว้ที่ก้นหลุมเพื่อเป็นสารอาหารในตอนแรกก่อน ซึ่งตรงที่จะปลูกควรเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นเยอะๆ

2.ขั้นตอนที่ 2 นำต้นกล้าลงในหลุมและกลบให้เรียบร้อย แต่ไม่ต้องกลบแน่นจนเกินไป หลังจากนั้นรดน้ำเยอะๆ เพราะพันธุ์ไม้นี้ชอบน้ำมากๆ แม้ว่าจะชอบน้ำมากยังไงก็ไม่ควรปลูกในน้ำเพราะจะได้สารอาหารไม่เต็มที่

การดูแลก็ต้องใส่ใจเพื่อให้ใบนั้นสวยงาม

  • กระดาดควรจะปลูกในดินเหนียวหรือดินร่วนเพื่อเก็บน้ำหรือความชื้นได้ดี
  • การรดน้ำ สามารถรดน้ำได้เยอะๆ เลย น้ำขังได้ยิ่งดี เพื่อให้ต้นกระดาด ได้รับความชื้นตลอดเวลา
  • สำหรับแสงแดด ควรเป็นแดดรำไร ไม่จัดมาก เพราะว่าถ้าแดดจัดเกินไปจะทำให้ขาดน้ำและใบไหม้ได้
  • การให้สารอาหารหรือเติมปุ๋ย ควรใส่ทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบ

ไม้ประดับและไม้ฟอกอากาศ

กระดาด

สำหรับต้นกระดาด แล้ว ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่ง ต้นไม้สวยงาม ที่สามารถเลี้ยงได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ๆ เอามาแต่งบ้านก็ได้ แต่งสวนก็ดี นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ที่สามารถดูดซับสารพิษ ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ เพิ่มออกซิเจนให้แก่บ้านเราได้ ไม่เพียงเท่านั้นทุกส่วนของต้นไม้ชนิดนี้ยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมายทั้ง ต้น ราก หรือเหง้าจะช่วยรักษาอาการท้องผูก น้ำจากก้านสามารถดื่มเป็นยาแก้ไอได้ หรือจะเอาเหง้ามาประกอบอาหารด้วยก็ได้

ปักหมุด ปักราคา

ปัจจุบันกระดาด สามารถขายได้ทุกส่วนของต้นเลย ไม่ว่าจะเป็นใบ หรือเหง้า โดย ต้นบอนกระดาด ราคา จะเริ่มตั้งแต่หลักร้อยบาทขึ้นไปถ้าเป็นพันธุ์ธรรมดาก็จะได้ราคานี้เลย  ส่วนพันธุ์ที่หาได้ยาก เช่นกระดาด ด่าง หรือกระดาด ที่ใบใหญ่ๆ ก็จะเริ่มตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักหมื่นได้เลย ส่วนแหล่งที่ควรปักหมุดก็จะเป็นตลาดต้นไม้จตุจักรเลย มีต้นนี้แน่นอน หรือใครที่สนใจแต่ไม่อยากจะเสี่ยงโรคระบาดช่วงนี้ก็สามารถหาซื้อผ่านทางออนไลน์ได้ ทั้งกลุ่มในเฟสบุ๊คหรือ Shopee ก็ได้เหมือนกัน ใครที่อยากจะเลี้ยงก็สามารถเลือกได้ตามใจเลย

สนับสนุนโดย https://pgslot-89.com/ pg slot ค่ายเกมส์สล็อตออนไลน์สุดฮิต เล่นง่าย จ่ายจริง https://pgslot-89.com/

Categories
ต้นไม้ฟอกอากาศ

ซุ้มกระต่างด่าง ไม้ประดับฟอกอากาศ ของนิยมชาวออฟฟิศ

ซุ้มกระต่างด่าง

ซุ้มกระต่ายด่าง หากพูดถึงชื่อของต้นไม้ชนิดนี้เชื่อว่าชาวออฟฟิศหลายๆ คนต้องร้องอ๋อ หรือคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นก็เพราะว่าซุ้มกระต่ายด่าง นั้นเป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศ รองจากพวกกระบองเพชร ลิ้นมังกร หรือพลูด่าง ที่หนุ่มสาวออฟฟิศนิยมซื้อมาเลี้ยงบนโต๊ะทำงาน ซึ่งก็จะทำให้เวลาเราทำงานนั้นมีสดชื่นมากขึ้น นอกจากที่นิยมเอามาประดับที่โต๊ะทำงานแล้วไม้ด่างชนิดนี้ก็ยังเอาไปทำอย่างอื่นได้อีก ซึ่งวันนี้เราจะมาพาทุกคนไปรู้จักกับไม้ด่างชนิดนี้

ซุ้มกระต่ายด่าง ไม้ด่างที่คุณคู่ควร

ซุ้มกระต่างด่าง

ซุ้มกระต่ายด่างไม้ด่างที่เราชอบเรียกว่า เศรษฐีไซ่ง่อน หรือ เศรษฐีเรือนนอก เป็นไม้พุ่มที่คลุมดิน ที่มีความสูงเพียงแค่ 15 – 35 เซนติเมตร ส่วนใบจะเป็นใบเรียงเดี่ยวและยาวที่เกิดมาเป็นพุ่มเรียงสลับกัน สีของใบนั้นจะมีความโดดเด่นกว่าไม้ประดับอื่น ๆ ก็คือจะมีสีเขียวและสีขาวสลับกันตรงเส้นใบและขอบใบ พอโตรวมเป็นกอเดียวกันแล้วก็จะดูสวยมากไม่ว่าจะเป็นปลูกในดินหรือปลูกในกระถาง จึงทำให้ต้นซุ่มกระต่ายด่างเป็นไม้ประดับที่นิยมเอามาจัดสวยหรือโต๊ะทำงาน พูดถึงขนาดนี้แล้วหลายคนก็คงอยากจะปลูกเลี้ยงแล้ว เราก็ลองมาดูกันดีกว่าซุ้มกระต่ายด่างวิธีปลูก ทำอย่างไรได้บ้าง

วิธีปลูกและวิธีการขยายพันธุ์ของต้นซุ้มกระต่ายด่าง

1.วิธีการปลูกวิถีแรกนั้นง่ายมาก เพียงแค่แยกหัวหรือหน่อบางส่วนจากกอมาปลูก บนดินที่สะอาดผสมกับใบไม้ และดินทราย ก็จะทำให้โตแบบรวดเร็วและเงางาม

2.วิธีปลูกวิธีที่สองคุณสามารถใช้ต้นอ่อนที่เกิดไหลในต้นไปปลูกใหม่ก็ได้

วิธีการดูแลให้เติบโตแบบเงางาม

  • ดินที่ควรใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนที่ปนกับดินทราย
  • การรดน้ำ ควรรดน้ำให้ไม้ด่างชนิดนี้พอประมาณ ไม่มากไป ควรรดน้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
  • การให้แสงแดดควรปลูกหรือตั้งกระถางให้โดนแดดแบบรำไร

ไม้ประดับที่มีประโยชน์ แถมยังเป็นของมงคล

ซุ้มกระต่างด่าง

อย่างที่ได้บอกไปแล้วตอนต้นว่าซุ้มกระต่ายด่าง เป็นไม้ประดับที่นิยมเอามาปลูกจัดสวนในบ้านหรือในออฟฟิศ เพราะว่าไม้ด่างชนิดนี้เป็นต้นไม้ฟอกอากาศซึ่งสามารถดูดสารพิษจำพวกแอมโมเนียได้ดีและแถมยังทำให้สวยหรือโต๊ะทำงานของเรามีสีสันมากขึ้น นอกจากนี้คนที่เลี้ยง ซุ้มกระต่ายด่าง ยังมีความเชื่ออีกว่าไม้ด่างชนิดนี้เป็น ไม้มงคล ช่วยเสริมในเรื่องของเมตตามหานิยมให้แก่ผู้เลี้ยงอีกด้วย

แหล่งซื้อขายซุ้มกระต่ายด่าง

ซุ้มกระต่างด่าง

สำหรับไม้ด่างชนิดนี้ถือว่าเป็นอีกต้นนึงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งไม่ว่าคุณจะเดินไปตลาดนัดต้นไม้ที่ไหน จะตลาดต้นไม้จตุจักร ตลาดต้นไม้หมอชิต หรือร้านต้นไม้ทั่วไปก็มีไม้ด่างชนิดนี้ขาย ซึ่งซุ้มกระต่ายด่าง ราคา ก็จะอยู่ตั้งแต่แต่หลักสิบเป็นต้นไป ต้นละ 10 บาทก็มี ถ้าใครสนใจก็สามารถหาไม้ด่างชนิดนี้มาเลี้ยงกันได้เลยค่ะ

สนับสนุนโดย https://slot-allbet.com/ แหล่งรวม pg slot หรือ พีจีสล็อต https://slot-allbet.com/pg-slot-or-pg-slot/

Categories
ต้นไม้มงคล

ถุงเงินถุงทอง ต้นไม้มงคลยอดนิยม ปลูกแล้วรวย เหมาะแก่การปลูกแห่งปี 2022

ถุงเงินถุงทอง

ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่า กระแสการปลูกและขายต้นไม้ในปัจจุบันนั้นมาแรงไม่เคยแผ่วลงเลยจริง ๆ เพราะนอกจากจะเป็นงานอดิเรกที่ดีแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการสร้างความสดชื่น เสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี และบรรยากาศดี ๆ ให้แก่บ้านได้เป็นอย่างดี และบางชนิดก็สามารถนำมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างเป็นรายได้เสริมได้อีกด้วย โดยเฉพาะต้นไม้มงคลยอดนิยมอย่าง ถุงเงินถุงทอง ที่มีความเชื่อกันว่าปลูกแล้วรวย และแน่นอนว่าในวันนี้ทางเราก็ได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านกัน แต่จะมีอะไรบ้าง ตามไปรับชมพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ

ถุงเงินถุงทอง

ถุงเงินถุงทอง คืออะไร

ถุงเงินถุงทองมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Xanthosoma sagittifolium (L.) Schott ‘Albomarginata’ วงศ์ตระกูล Araceae เป็นว่าน ไม้ด่าง หรือบางคนก็เรียกว่า ถุงเงินถุงทองด่าง มีความสวยงาม มีเสน่ห์ เพราะในหนึ่งต้นมีทั้งถุงเงินและถุงทองอยู่ในต้นเดียวกัน นิยมนำมาปลูกหรือใส่กระถางประดับวางไว้หน้าอาคาร บ้านเรือน ลักษณะโดยทั่วไปจะเป็นไม้ล้มลุก อายุยืน ความสูงประมาณ 80 – 100 เซนติเมตร ใบสีเขียวมีแถบด่างสีขาวประปราย ช่อดอกออกจากซอกกาบใบเป็นเชิงลด ใบประดับสีเขียวอ่อนอมเหลือง มีกาบปลีดอกเรียวยาวสีเหลือง

ถุงเงินถุงทองความหมาย

สามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับสวยงาม เนื่องจากมีทั้งใบสีเงิน สีทอง ผู้คนจึงนิยมนำไปปลูกเอาไว้หน้าบ้าน ซึ่งเป็นได้ทั้งไม้ประดับและไม้มงคลตามความเชื่อที่สืบต่อมาจากโบราณ ซึ่งถ้าหากบ้านใดมีการปลูกต้นไม้ชนิดนี้เอาไว้ จะทำให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาจะเมตตา ผู้ใหญ่อุปถัมภ์ เอ็นดู และอีกหนึ่งความเชื่อคือ ช่วยเก็บเงินเก็บทอง ทำให้ผู้ที่ปลูกต้นไม้ชนิดนี้ร่ำรวยอีกด้วย

ถุงเงินถุงทอง

ถุงเงินถุงทองดูแลอย่างไร

สำหรับต้นไม้ชนิดนี้จัดเป็นต้นไม้ที่ชื่นชอบแสงแดดโดยตรง ไม่ร้อนจนเกินไป มีความชื้นในอากาศพอสมควร เนื่องจากมีถิ่นกำเนิดในโซนร้อน หากปลูกไว้ภายในอาคาร บ้านเรือน ควรวางในตำแหน่งที่ได้รับแสงแดดรำไร เช่น บริเวณหน้าต่าง ระเบียง เป็นต้น ควรรดน้ำอย่างน้อย 1 ครั้งในทุก ๆ 2 วัน และอย่าลืมใส่ปุ๋ยเพื่อเป็นการเพิ่มสารอาหารในดินให้เขา ควรใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยเกินไป และควรระวังในเรื่องของแมลง ได้แก่ ไรแดง/ไรแมงมุม และเพลี้ยแป้ง มากัดกินใบต้นไม้จนตายได้นั่นเอง

บทสรุปส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับต้น ถุงเงินถุงทอง ที่เรานำมาฝากในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อน ๆ ที่เป็นมือใหม่ในการปลูกต้นไม้ได้ไม่มากก็น้อย เพราะนอกจากจะเป็นต้นไม้ที่ช่วยประดับเพิ่มความสวยงามภายในบ้านได้แล้ว ยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยกรองฝุ่นละออง ลดมลพิษทางอากาศ ที่อาจอยู่ในบ้านของคุณแบบไม่รู้ตัว ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจได้อีกด้วย ทั้งสวยแถมมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ก็อย่าลืมนำมาลองปลูกกันสักต้นนะคะ วันนี้ทางเราต้องขอตัวลาไปก่อน สำหรับคราวหน้าจะนำสาระต้นไม้ชนิดไหนมาให้เพื่อน ๆ อ่านนั้น อย่าลืมติดตามและรับชมกันนะคะ

สนับสนุนโดย https://slot-allbet.com/ แหล่งรวม http://pg slot หรือ พีจีสล็อต ***ใส่ลิงค์ https://slot-allbet.com/pg-slot-or-pg-slot/

Categories
ต้นไม้มงคล

แสยกด่าง ต้นไม้ที่มีใบสวยงามที่เต็มไปด้วยความเชื่อ

แสยกด่าง

แสยกด่าง หรือที่เรียกว่า สะ-แหยก-ด่าง ต้นไม้ใบด่างอีกหนึ่งต้นที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงต้นไม้ เพราะด้วยความที่ใบของต้นนี้มีความโดดเด่นและไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ต้นนี้ จึงทำให้นอกจากจะเป็นที่นิยมของผู้รักษ์ต้นไม้แล้วยังเป็นที่นิยมของคนที่เป็นสายมูอีกด้วย แล้วต้นไม้ แสยกด่าง ต้นนี้มีความเป็นมาอย่างไรและมีลักษณะแบบไหนเราจะมาพาคุณไปดูพร้อมกันเลย

แสยกด่าง ไม้ที่มีมาตั้งแต่โบราณ

แสยกด่าง

แสยกด่าง หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อแต่ถ้าเอารูปมาให้ดูรับรองว่าจะต้องจะร้องอ๋ออย่างแน่นอน แล้วทำไมถึงไม่รู้จักชื่อนี้นะ? นั้นก็เพราะว่าเจ้าต้นแสยกด่างนั้นมีชื่อเรียกที่ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ต้น กวักเงิน กวักทอง , ต้นนกน้อย หรือ ต้นแสยกสามสี นี่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนไม่คุ้นชื่อนี้ นอกจากนี้แสยกยังเป็นต้นไม้ที่มีมาตั้งแต่โบราณและนิยมปลูกเป็น ไม้ประดับ ในสมัยนั้นอีกด้วย

แสยกด่าง

สำหรับลักษณะของไม้ประดับต้นนี้จะมีลักษณะเป็นพุ่ม ความสูงของต้นจะอยู่ประมาณ 1 เมตร ลำต้นจะมีสีเขียวออกไปทางสีเทา สำหรับใบที่เป็นจุดเด่นก็จะมีลักษณะเป็นใบเดี่ยวที่เรียงสลับกันเป็นรูปไข่ ปลายแหลม ใบจะมีสีเขียวอ่อนปนด่างที่เป็นสีขาว สีแดง หรือสีชมพู พอปลูกหลายๆต้นด้วยกันก็จะสวยมาก

วิธีการดูแล แสยกด่าง ที่ง่ายแสนง่าย ใครๆก็เลี้ยงได้

1.วิธีปลูกต้นแสยกด่าง เริ่มแรกควรรองกระถางด้วยกากมะพร้าวสับ ปุ๋ยคอก เพราะให้มีสามารถอาหารในตอนแรก

2.กลบด้วยดินทั่วไปก็ได้ แต่ถ้าจะให้ต้นนี้โตงามๆ ก็ควรจะเป็นดินร่วน

3.การดูแลควรรดน้ำควรรดพอประมาณไม่ให้ชุ่มเกินจนน้ำขังไม่อย่างนั้นรากเน่าแน่ๆ

4.ตั้งอยู่ในที่มีแดดรำไร ไปถึงที่ที่มีแสงจัด เพราะแสยกด่างจะชอบมากๆ

ไม่ได้มีดีแค่สวย แต่มีประโยชน์อีกด้วย

  • ต้น สามารถใช้เป็นยาช่วยถอนพิษไข้ได้ และถ้ามาพอกตรงแผลจะทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  • ใบ และ ยอด จะช่วยสมานแผลและห้ามเลือดได้
  • ยอดสด สามารถช่วยลดกลากเกลื้อน แก้พิษแมลงสัตว์ที่มากัดต่อยได้

ความเชื่อของ แสยกด่าง

นอกจากจะเป็นไม้ประดับที่ปลูกในบ้านได้สวยงามแล้ว ยังเป็นมีความเชื่อว่าเป็น ต้นไม้มงคล อีกด้วย ยิ่งในหมู่ของคนที่ทำอาชีพค้าขายจะเชื่อว่าหากใครที่ปลูกแสยกด่างไว้ในร้านก็ดีหรือหน้าร้านก็จะทำให้มีการค้าขายที่ดี  เรียกเงินเรียกทองมาให้แก่เจ้าของร้านเหมือนอีกชื่อนึงของต้นนี้ก็คือ “กวักเงินกวักทอง”

ถ้าอยากเลี้ยง แสยกด่าง จะหาได้จากไหนบ้างนะ?

แสยกด่าง

สำหรับต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก็หาซื้อมาเลี้ยงได้ง่าย เพราะบางครั้งซื้อไปปลูกครั้งเดียวก็อยู่ได้นานเพราะเป็นต้นไม้ที่ทนต่อสภาพอากาศและใครที่อยากหามาเลี้ยง เราแนะนำให้หาซื้อได้ตามตลาดต้นไม้ทั้งจตุจักร 1 และตลาดต้นไม้จตุจักร 2 หรือใครที่ไม่อยากออกจากบ้านก็สามารถสั่งออนไลน์มาได้ โดยราคาของต้น แสยกด่าง ก็จะเริ่มตั้งแต่ 20 บาทไปจนถึงหลักร้อยเลย

สนับสนุนโดย พีจีสล็อตเว็บตรง เว็บ พีจีสล็อตเว็บตรง ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ https://pgallbet.info/blog/pgslot%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87/

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

ตะแบก ไม้ยืนต้นสวยงามปลูกเลี้ยงก็ได้ ปลูกประดับก็ดี

ตะแบก

ตะแบก ไม้ใหญ่อีกหนึ่งชนิดที่หลาย ๆ คนคงจะเคยได้เห็นผ่านตามาแล้วบ้าง ทั้งในสวนสาธารณะ ริมถนนหรือสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นไม้ขนาดใหญ่ที่จะคอยให้ร่มเงา โดยพรรณไม้นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ดอกของมัน เพราะเมื่อถึงฤดูผลิดอกเป็นสีชมพูสะพรั่งเต็มต้น แล้วยิ่งปลูกหลายๆ ต้นก็จะยิ่งให้วิวทิวทัศน์แถมนั้นออกมาสวยจนกลายเป็นแลนด์มาร์คเอาไว้ถ่ายภาพได้เลย ซึ่งความสวยของต้นไม้ชนิดนี้ก็ทำให้กลายเป็นไม้ใหญ่ที่นิยมจะเอามาปลูกเพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ต้นตะแบก มักจะถูกจำสลับกับต้นเสลา หรือ ต้นอินทนิล แต่ที่จริงแล้วมันคนละต้นกันเลย ในวันนี้เลยจะมาพาทุกคนไปชมและทำความรู้จักกับตะแบก ต้นไม้ต้นนี้กัน

ตะแบก ต้นไม้ดอกสีชมพูที่มองเท่าไรก็ฟิน

ตะแบก

ตะแบกเป็นต้นไม้เนื้อแข็งที่มีชื่อเรียกหลากหลายตามภูมิภาค หากเป็นทางเชียงใหม่จะเรียกว่า แลนไห้ ชาวนครราชสีมาจะเรียกว่าเปลือยดง จังหวัดสุราษฎร์จะเรียกว่าต้นอ้าย โดยต้นไม้ชนิดนี้เป็นยืนต้นที่พบได้ทั่วเอเชีย จะอยู่ตามป่าดงดิบซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วน ลักษณะต้นตะแบก จะสูงประมาณ 15 – 20 เมตร ลำต้นเรียบเป็นมัน มีสีเทา คล้ายกับเปลือกของต้นฝรั่ง แต่จะมีจุดด่างขาวอยู่รอบๆอยู่ตามลำต้นเป็นจุดต่าง ส่วนใบของต้นตะแบก จะมีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายใบจะทู่ โคนจะโค้งมน ท้องใบจะสีเขียว ดอกของตะแบก จะเป็นช่อโตอยู่ปลายกิ่งตามส่วนต่างๆ จะมีสีขาว สีชมพู หรือสีม่วงอมชมพูอ่อนๆ ซึ่งจะผลิดอกในช่วงฤดูร้อนในเดือน มีนาคมถึงพฤษภาคม

วิธีการดูแลต้นตะแบก ให้ออกดอกงามๆ

1.ควรให้แสงกับต้นไม้ชนิดนี้ตลอดทั้งวัน เพราะตะแบก ชอบแดดจัด

2.ควรรดน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

3.ควรใช้ดินร่วนซุยที่มีความชื้นปานกลาง

4.การให้สารอาหารเพิ่มเติมโดยใช้ปุ๋ยหมัก ให้ 3 เดือนครั้งก็เพียงพอ

ประโยชน์ของต้นตะแบก ที่ไม่ได้มีดีแค่สวย

  • เปลือก ใช้ปรุงเป็นยาช่วยแก้บิด
  • ขอนดอก ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ปอด และตับ
  • ดอก ใช้แก้อาการหน้ามือ ตาลาย ใจสั่น แถมยังแก้เหงื่อ ขับเสมหะอีกด้วย
  • ไม้ ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ได้ หรือใช้เป็นเชื้อเพลิงก็ได้

จะปลูกไว้ในบ้านทำได้ไหมนะ ?

ตะแบก

หลายคนก็คงสงสัยว่า ต้นตะแบก ปลูกในบ้าน จะสามารถปลูกได้หรือเปล่า เพราะว่าเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ต้องขอบอกเลยว่าสามารถปลูกในบ้านได้ ซึ่งจะคอยให้เป็นร่มเงา และยังสามารถดักจับฝุ่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความเชื่อโบราณอีกว่าตะแบก นั้นเป็น ไม้มงคล เชื่อว่าจะเป็นไม้ที่ช่วยค้ำจุนให้ครอบครัวอยู่อย่างสงบสุขและร่มเย็น

หาซื้อต้นตะแบก ได้จากที่ไหนบ้าง ?

ตะแบก

ตะแบกเป็นไม้ใหญ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการที่ปลูกในสวน จึงทำให้แหล่งซื้อขายต้นตะแบกนั้นหาได้ไม่ยากนัก ซึ่งก็จะมีตามร้านขายต้นไม้ หรือพันธุ์ไม้ประดับ หรือตลาดต้นไม้ก็มี

นอกจากนี้ก็ยังจะสามารถหากซื้อได้ตามตลาดออนไลน์ทั้งกลุ่มต้นไม้ใน Facebook หรือจะเป็นทางแพลตฟอร์ม Shopee กับ LAZADA ก็มีเช่นกัน โดยราคาต้นตะแบกก็จะมีตั้งแต่หลักสิบที่ยังเป็นต้นกล้าอยู่ ไปจนถึงหลักหมื่นบาทที่เป็นต้นโตเต็มที่แล้ว ใครที่อยากเลี้ยงพรรณไม้ประดับสวยงามพันธุ์นี้ก็สามารถเลือกซื้อหากันได้เลย

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

แว่นแก้ว พืชในน้ำไม้มงคล เสริมโชค ประโยชน์เยอะ

แว่นแก้ว

แว่นแก้ว หากพูดถึงคำนี้หลายคนคงจะนึกถึงสิ่งของอย่างอื่นที่เป็นแว่นๆ และไม่ใช่ต้นไม้แน่นอน ซึ่ง แว่นแก้ว นั้นเป็นต้นไม้น้ำชนิดนึงที่มีรูปร่างกลมคล้ายแว่น สามารถปลูกและเลี้ยงไว้ในน้ำได้ ถ้าจะพูดให้ง่ายๆ เพื่อให้หลายๆ คนนึกออกก็อาจจะเป็นพืชที่ชอบโดนเลี้ยงอยู่ในบ่อปลาหรือตู้ปลา นั่นแหละคือต้น แว่นแก้ว ซึ่งในปัจจุบันพืชชนิดนี้ก็นิยมเอาเลี้ยงกัน เพราะเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย ไม่ยาก มือใหม่ก็สามารถเลี้ยงได้เหมือนกัน มาถึงขนาดนี้แล้วเราก็จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้กันว่าจะเป็นพืชที่เลี้ยงง่ายยังไง

แว่นแก้ว พืชที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็น ใบบัวบก

แว่นแก้ว

แว่นแก้ว หรือจะเรียกว่า “บัวแก้ว” ก็ได้เป็นไม้น้ำที่เป็นพืชล้มลุก มีต้นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ รูปร่างคล้ายกับต้นใบบัวบกที่หลายๆ คนชอบสงสัย และมองว่ามันเป็นพืชชนิดเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เลย แม้ว่าจะมีกิ่งหรือก้านที่เลื้อยไปตามพื้นดินหรือบนผิวน้ำเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ใบของทั้งคู่ โดยใบของ แว่นแก้ว จะเป็นใบที่ค่อนข้างกลม ขอบใบหยักโค้ง ส่วนใบของต้นบัวบกจะมีส่วนหนึ่งรอยเว้าเข้าไป นอกจากนี้ แว่นแก้ว ยังเป็นต้นไม้ที่ที่เติบโตได้อย่างเร็วและสูงเพียง 5 – 15 เซนติเมตรเท่านั้น ไม่ว่าแสงจะเยอะหรือน้อยอย่างไรเจ้าต้นไม้ชนิดนี้ก็จะวิ่งเข้าหาแสงและไปเติบโตที่ตรงนั้น นับว่าเป็นพืชที่ดูแลไม่ยาก

วิธีการดูแลก็ง่ายแสนง่าย ยังไงก็ไม่ตาย

1. แว่นแก้ว ชอบดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง

2.ชอบความชุ่มชื้น ดังนั้นถ้าปลูกในดินควรรดน้ำให้มาก หรืออาจจะปลูกในน้ำหรือพื้นที่น้ำขังจะเจริญเติบโตได้ดี

3.แสงแดดไม่ต้องแรงมาก หากอยากให้ตัวใบมีสีเขียวสดก็ปลูกในที่มีแดดส่องถึงก็เพียงพอ

4.ควรบำรุงด้วยปุ๋ยทุก 3 เดือน เพื่อให้ต้นแข็งแรง

สรรพคุณของต้นแว่นแก้ว ที่คุณต้องทึ่ง!!

  • ลำต้น ใช้เป็นยาสามารถแก้พิษไข้ได้
  • นำ ใบ หรือ ลำต้น มาต้มดื่มแก้ช้ำในได้
  • ทั้งต้นก็ยังช่วยขับปัสสาวะ และใช้เป็นยาแก้บวม
  • นอกจากนี้ลำต้นยังช่วยแกอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือ ท้องเสียได้

สรรพคุณก็เยอะ ประโยชน์ก็แยะ เสริมดวงก็ได้

แว่นแก้ว

อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนยังสงสัยนอกจากว่าไม้ชนิดนี้เหมือนใบบัวบกไหม นั่นก็คือ แว่นแก้วกินได้ไหม ซึ่งหากได้อ่านสรรพคุณมาแล้วคงจะตอบได้ทันทีว่า “กินได้” นอกจาก ประโยชน์ ต้นแว่นแก้ว จะนำมาทำเป็นยาแล้วก็ยังเลี้ยงเอาไว้เก็บกินได้ด้วย บอกเลยว่าถ้าเอาใบสดมากินแกล้มกับน้ำพริกนะอร่อยที่สุดเลย ไม่เพียงเท่านั้นต้นไม้ต้นนี้ก็ยังนิยมเอามาปลูกเป็นไม้ประดับอีกด้วยเพราะมีความเชื่อที่ว่า หากบ้านไหนปลูก แว่นแก้ว ก็จะ เสริมฮวงจุ้ย ในเรื่องความร่ำรวยมั่งคั่งจะตามเทรนด์ได้ทัน ต้องหาแหล่งซื้อ

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

กันเกรา ไม้หอมของไทย แนะนำวิธีดูแล และการขายเพื่อเพิ่มอาชีพ

กันเกรา เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นสูงเต็มที่ 20 – 30  เมตร มักขึ้นอยู่ตามธรรมชาติทุกภูมิภาคของประเทศไทย มีถิ่นกำเนิดตามป่าเบญจพรรณและตามที่ใกล้กับแหล่งน้ำ ในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย เวียดนาม และอินเดีย ทั้งบริเวณที่ลุ่ม ริมน้ำ หรือ ป่าดิบ ส่วนใหญ่พบมากในภาคตะวันออกและภาคใต้

ลักษณะลำต้น มีเปลือกหยาบ สีน้ำตาลปนดำ มีรูปร่างลักษณะแตกระแหงเป็นร่อง ไม่เป็นระเบียบ ปลายกิ่งห้อยลง ใบออกเป็นคู่ ๆ ตรงข้ามกัน ใบหนาสีเขียวแก่ รูปทรงใบเป็นแบบยาวรี ปลายใบแหลม โคนใบเรียว เป็นครีบไปตามก้าน ใบยาวราว 8-12  เซนติเมตร กว้างยาว 2.5-3.5 เซนติเมตร ก้านใบยาว 1-2 เซนติเมตร

กันเกรา รายละเอียด กันเกรา ชื่อวิทยาศาสตร์

          กันเกรามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Fagraea fragrans Roxb. อยู่ในวงศ์ Loganiaceae (บางตำราว่าอยู่ในวงศ์ Potaliaceae) ส่วนกันเกรา ชื่อสามัญ ภาษาอังกฤษเรียก Tembusa ชื่อภาษาไทย กันเกรา อ่านว่า กัน-เกรา

กันเกราประโยชน์และสรรพคุณดี ๆ ที่น่าสนใจ

กันเกราเป็นต้นไม้พื้นบ้านดั้งเดิมของไทย ที่มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรรักษาโรค โดยโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ สำนักวัดพระเชตุพนฯ บรรยายสรรพคุณเอาไว้ว่า “แก่น : รสเฝื่อน ฝาด ขม เข้ายาบำรุงธาตุ แก้ไข้จับสั่น แก้หืด ไอ มองคร่อ (โรคชนิดหนึ่ง เสมหะแห้งอยู่ในลำหลอดปอด) ริดสีดวง ท้องมาน แน่น หน้าอก ลงท้องเป็นมูกเลือด แก้พิษ ฝีกาฬ บำรุงม้าม แก้เลือดลมพิการ เป็นยาอายุวัฒนะ เปลือกบำรุงโลหิต ผิวหนังพุพอง ปวดแสบปวดร้อน” ในตำราบางเล่มมีสรรพคุณเพิ่มเติมคือ “บำรุงร่างกาย แก้ปวด ตามข้อ แก้ไข้”

  1. แก่นกันเกรา ช่วยบำรุงไขมันในร่างกาย
  2. แก่น ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
  3. เปลือกต้นช่วยบำรุงโลหิต
  4. แก่นกันเกรา มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรีย
  5. ช่วยแก้ไข้จับสั่น
  6. ช่วยแก้อาการหืดไอ
  7. ช่วยแก้อาการแน่นหน้าอก
  8. ช่วยแก้อาการท้องมาน
  9. ช่วยขับลมในกระเพาะ

10.ช่วยรักษาริดสีดวง

แนะนำกันเกรา วิธีปลูก

          กันเกรานิยมปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ด โดยจะเพาะจากเมล็ดที่ร่วงจากต้นหรือเมล็ดที่แก่จัดจากต้น และเราจะนำเมล็ดนั้นมาตากแห้ง จากนั้นนำไปเพาะลงในถุงเพาะชำ รอจนต้นมีความสูงประมาณ 15-30 ซม. จากนั้นค่อยทำการย้ายลงในที่ที่ต้องการ กันเกราการปลูก ควรมีระยะห่างประมาณ 15-25 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถปลูกได้โดยนอกจากวิธีอื่น  นอกจากวิธีการเพาะเมล็ด เช่น การปักชำ การตอนกิ่ง ทีนี้ทิศทางการปลูกหากจะว่าตามความเชื่อเกี่ยวกับทิศทาง ต้น กันเกราปลูกในบ้าน ก็ควรปลูกในทิศทางใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ

ราคาซื้อขายต้นกันเกรา

                    กันเกราถือเป็นไม้ดอกยืนต้นที่นิยมปลูกเอาไว้เพื่อเสริมความสวยงามให้กับบริเวณรอบนอกบ้าน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นต้นไม้ที่ส่งกลิ่นหอมหวานน่าชื่นใจให้กับคนที่อยู่บริเวณที่พักอาศัยอีกด้วย ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมาก อยู่ที่สองต้นความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร 2 ต้น ราคา 150 บาท

ทำไมต้นกันเกราจึงเป็นที่นิยม

          คำถามนี้สามารถอธิบายได้แบบง่าย ๆ เลยว่าเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะใบร่วงน้อย ดูแลง่าย มีกลิ่นหอม นอกจากนั้นต้นไม้ชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยสรรพคุณต่าง ๆ มากมาย ทั้งทางเภสัชวิทยาและช่วยส่งกลิ่นหอมให้กับพื้นที่นั้น ๆ

Categories
ต้นไม้มงคล

พญาสัตบรรณ ต้นไม้เก่าแก่ของไทย กลิ่นหอมอบอวลที่ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึง

พญาสัตบรรณ เป็นเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 12–20 เมตร มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบได้ในทุกภาคของประเทศไทย ที่สำคัญมาก ๆ เลยก็คือ ต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย ลักษณะภายนอกจะมีเปลือกหนาแต่เปราะ ผิวต้นมีสะเก็ดเล็ก ๆ สีขาวปนน้ำตาลรอบต้น เมื่อลองกรีดดูจะมียางสีขาวไหลซึมออกมา ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขามากลักษณะเป็นชั้น ๆ

พญาสัตบรรณ ไม้มงคลประจำจังหวัดสมุทรปราการ

พญาสัตบรรณอยู่ในวงศ์ Apocynaceae พญาสัตบรรณชื่อสามัญ คือ White Cheesewood ส่วนชื่อไทย คือ สัตบรรณ ความ หมาย พญาสัตบรรณ คือ ช่อของต้นสัตบรรณมักจะประกอบด้วยใบทั้งหมดเจ็ดใบนั่นเอง ถือเป็นไม้มงคลของจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พุทธศักราช 2537 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับพระราชทานพันธุ์ไม้ดังกล่าวจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดวันรณรงค์โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ ปีที่ 50 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ลักษณะต้นพญาสัตบรรณ ผลออกเป็นฝัก ลักษณะฝักยาว เป็นฝักคู่หรือฝักเดี่ยว ลักษณะเป็นเส้น ๆ กลมเรียว มีความยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตกเป็น 2 ซีก มีขุยสีขาวสามารถปลิวไปตามลมได้

พญาสัตบรรณสรรพคุณหลากหลาย มากมายไปด้วยประโยชน์

          พญาสัตบรรณเป็นอีกหนึ่งไม้ยืนต้นที่ใครหลายคนมักติดภาพจำต้นพญาสักตะบัน กลิ่น โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่กลิ่นจะแรงเป็นพิเศษ แต่ความจริงแล้วต้นไม้ชนิดนี้ก็เต็มไปสรรพคุณดี ๆ มากมายเหมือนกันนะ

  1. เปลือกต้นนั้นมีรสขม สามารถใช้เป็นยาขม ช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้น
  2. เปลือกต้นสัตบรรณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน
  3. น้ำยางจากต้น ใช้หยอดหู แก้อาการปวดหูได้
  4. น้ำยางจากต้น ใช้อุดฟัน เพื่อแก้อาการปวดฟันได้
  5. ใบอ่อนใช้ชงดื่ม ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน หรือโรคลักปิดลักเปิดได้
  6. เปลือกต้นใช้แก้หวัด แก้อาการไอ รักษาหลอดลมอักเสบ
  7. ช่วยแก้อาการไข้
  8. เปลือกต้น นำมาต้มน้ำดื่ม รักษาอาการไข้

พญาสัตบรรณวิธีการปลูก

           พญาสัตบรรณที่มีการปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ดจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เพราะจะทำให้ต้นมีความแข็งแรงและยึดเกาะได้ดี ด้วยการนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ มาปลูกลงในกระถางเพาะกล้า ที่ใส่ดินร่วนปนทรายผสมขุยมะพร้าวเอาไว้ และรองก้นด้วยปุ๋ยคอก แนะนำว่าเวลาจะปลูกควรจะเพาะต้นกล้า แค่กระถางละ 1 ต้น หลังจากปลูกไปได้ 90 วัน บวกกับว่าต้นมีความแข็งแรงดีแล้ว ก็ให้ย้ายต้นกล้าปลูกในหลุมปลูกดินร่วน เน้นบริเวณที่เป็นพื้นที่โล่ง ห่างจากตัวบ้านหรือแนวกั้นรั้วสักประมาณ 20-30 เมตร เพื่อความปลอดภัยไม่ทำลายโครงสร้างอาคาร

พญาสัตบรรณราคาขายปัจจุบัน เช็คราคาได้ที่นี่

          พญาสัตบรรณต้นพญาสักตะบัน ราคา ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ ต้นละ 180 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเลย ใครที่อยากได้ไม้ร่ม มีกลิ่นหอมให้กับตัวบ้านแล้วล่ะก็ ลองซื้อต้นไม้ชนิดนี้ไปปลูกดูสิ รับรองว่าช่วยให้บรรยากาศร่มรื่นได้ดีเลยล่ะ

ทำไมผู้คนถึงนิยมปลูกต้นสัตบรรณ

นอกจากประโยชน์หลัก ๆ เรื่องการให้ร่มเงาและกลิ่นหอมแล้ว ต้นสัตบรรณยังมีความหมายอันเป็นสิริมงคล ด้วยลักษณะต้นทรงพุ่มที่ดูคล้ายฉัตร หรือ ฉัตรบรรณ เครื่องชั้นสูงที่ใช้ในขบวนแห่นั้น เชื่อกันว่ามีความหมายที่เป็นเกียรติเป็นพญา น่าเคารพยกย่อง

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

จันทน์ผา ไม้ประดับยอดฮิต เปลี่ยนบ้านให้สวยหรูมีสไตล์ด้วยต้นไม้สวย

จันทน์ผา เป็นต้นไม้ประดับที่มีความสวยงาม อีกทั้งยังราคาค่อนข้างสูง สามารถนำไปปลูกได้ในกระถาง ไม่ต้องกังวลเลยว่าต้นไม้นี้จะเคลื่อนย้ายลำบาก หรือ ว่ารากจะไปทำให้บ้านของเราพัง เนื่องจากเป็นต้นไม้ขนาดกลาง ไม่ใหญ่มากนัก ที่นิยมปลูกมากที่สุดคือ ความสูงประมาณ 1.5-3.5 เมตร แต่ต้นนี้ก็สามารถเติบโตสูงได้ถึง 16 เมตรเลยทีเดียว นิยมนำมาประดับตกแต่งบ้าน และจัดสวนสไตล์มินิมอลสวย ๆ อีกทั้งตอนเช้ากับตอนเย็น ต้นนี้จะส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกมาด้วย

จันทน์ผา ลักษณะภายนอก

จันทน์ผามีลักษณะ ใบเรียวแหลม ออกมาจากลำต้นอวบใหญ่ของต้น ใบจะมีสีเขียวเข้มสลับกับสีอ่อน จันผา ดอก เป็นช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ออกตามซอกใบมีดอกจำนวนมาก จันผา ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Dracaena cochinchinensis (Lour.) S.C.Chen ชื่อ จันผา ความหมาย คล้ายกับต้นวาสนาเพราะเป็นไม้วงศ์เดียวกัน นอกจากนี้ต้นนี้ยังอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นผักชีฝรั่งด้วยนะ

จันทน์ผาสรรพคุณและคุณประโยชน์

          จันทน์ผานอกจากในบริบทของไม้ประดับที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านและสถานที่ต่าง ๆ แล้วนั้น ยังมี สรรพคุณ จันผา ได้แก่

  1. แก่นมี รสขมเย็น ช่วยบำรุงหัวใจให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ช่วยแก้ไข้ ลดอาการไข้ได้
  3. ช่วยแก้ไอ
  4. เมล็ดสามารถใช้รักษาอาการดีซ่าน ตัวเหลือง
  5. ใช้ลำต้นช่วยแก้อาการปวดศีรษะ 
  6. ช่วยลดและแก้อาการเหงื่อตก อาการกระสับกระส่าย
  7. ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้ดีมาก

จันทน์ผาวิธีปลูกและดูแลรักษา

          จันทน์ผาวิธีขยายพันธุ์ จันผา มีวิธีหลัก ๆ อยู่ 2 วิธีคือ การเพาะเมล็ด และ การปักชำ การดูแลคือพยายามคุมปริมาณน้ำไม่ให้แฉะมากเกินไป ระยะปลูกที่เหมาะสม คือ 1-4 เมตร ทรงพุ่มของต้นนี้จะสวยงามได้ที่ก็ตอนปลูกได้ประมาณ 6-12 เดือนขึ้นไป เป็นต้นไม้ที่ทนแล้ง สามารถทนดินเค็ม และสามารถทนการปะทะของแรงลมได้ จริง ๆ ต้นไม้ชนิดนี้ดูแลค่อนข้างไม่ยากเลย ใครที่อยากได้ไม้สวย ๆ ไว้ประดับบ้านบอกเลยว่าเหมาะมาก ๆ

จันทน์ผาราคาขายอยู่ที่เท่าไร

          จันผา ราคา ปัจจุบันราคาขายจะเริ่มต้นที่ 500 บาทไปจนถึง 1000 บาท แต่ถ้าต้นนั้นมีลักษณะพิเศษสวย ๆ อย่างเป็นแบบใบด่างหรือมีสีสวยพิเศษก็สามารถอัพราคาขายได้ถึงหลักพัน ถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว

ทำไมต้นจันผาถึงกลายเป็นไม้ประดับที่นิยมมาก

          ต้นจันทน์ผาเป็นไม้ประดับที่มีเอกลักษณ์ด้วยรูปทรงที่มีความสง่าของตัวเอง ใบเรียวคมสวย เหมือนกับหอกหรือดาบ ตามความเชื่อการได้ปลูกจันผาไว้ในบ้านจะเหมือนการปกป้องอันตรายเข้าบ้านได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่มีเวลามากนักก็สามารถดูแลได้