Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

กันเกรา ไม้หอมของไทย แนะนำวิธีดูแล และการขายเพื่อเพิ่มอาชีพ

กันเกรา เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นสูงเต็มที่ 20 – 30  เมตร มักขึ้นอยู่ตามธรรมชาติทุกภูมิภาคของประเทศไทย มีถิ่นกำเนิดตามป่าเบญจพรรณและตามที่ใกล้กับแหล่งน้ำ ในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย เวียดนาม และอินเดีย ทั้งบริเวณที่ลุ่ม ริมน้ำ หรือ ป่าดิบ ส่วนใหญ่พบมากในภาคตะวันออกและภาคใต้

ลักษณะลำต้น มีเปลือกหยาบ สีน้ำตาลปนดำ มีรูปร่างลักษณะแตกระแหงเป็นร่อง ไม่เป็นระเบียบ ปลายกิ่งห้อยลง ใบออกเป็นคู่ ๆ ตรงข้ามกัน ใบหนาสีเขียวแก่ รูปทรงใบเป็นแบบยาวรี ปลายใบแหลม โคนใบเรียว เป็นครีบไปตามก้าน ใบยาวราว 8-12  เซนติเมตร กว้างยาว 2.5-3.5 เซนติเมตร ก้านใบยาว 1-2 เซนติเมตร

กันเกรา รายละเอียด กันเกรา ชื่อวิทยาศาสตร์

          กันเกรามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Fagraea fragrans Roxb. อยู่ในวงศ์ Loganiaceae (บางตำราว่าอยู่ในวงศ์ Potaliaceae) ส่วนกันเกรา ชื่อสามัญ ภาษาอังกฤษเรียก Tembusa ชื่อภาษาไทย กันเกรา อ่านว่า กัน-เกรา

กันเกราประโยชน์และสรรพคุณดี ๆ ที่น่าสนใจ

กันเกราเป็นต้นไม้พื้นบ้านดั้งเดิมของไทย ที่มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรรักษาโรค โดยโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ สำนักวัดพระเชตุพนฯ บรรยายสรรพคุณเอาไว้ว่า “แก่น : รสเฝื่อน ฝาด ขม เข้ายาบำรุงธาตุ แก้ไข้จับสั่น แก้หืด ไอ มองคร่อ (โรคชนิดหนึ่ง เสมหะแห้งอยู่ในลำหลอดปอด) ริดสีดวง ท้องมาน แน่น หน้าอก ลงท้องเป็นมูกเลือด แก้พิษ ฝีกาฬ บำรุงม้าม แก้เลือดลมพิการ เป็นยาอายุวัฒนะ เปลือกบำรุงโลหิต ผิวหนังพุพอง ปวดแสบปวดร้อน” ในตำราบางเล่มมีสรรพคุณเพิ่มเติมคือ “บำรุงร่างกาย แก้ปวด ตามข้อ แก้ไข้”

  1. แก่นกันเกรา ช่วยบำรุงไขมันในร่างกาย
  2. แก่น ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
  3. เปลือกต้นช่วยบำรุงโลหิต
  4. แก่นกันเกรา มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรีย
  5. ช่วยแก้ไข้จับสั่น
  6. ช่วยแก้อาการหืดไอ
  7. ช่วยแก้อาการแน่นหน้าอก
  8. ช่วยแก้อาการท้องมาน
  9. ช่วยขับลมในกระเพาะ

10.ช่วยรักษาริดสีดวง

แนะนำกันเกรา วิธีปลูก

          กันเกรานิยมปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ด โดยจะเพาะจากเมล็ดที่ร่วงจากต้นหรือเมล็ดที่แก่จัดจากต้น และเราจะนำเมล็ดนั้นมาตากแห้ง จากนั้นนำไปเพาะลงในถุงเพาะชำ รอจนต้นมีความสูงประมาณ 15-30 ซม. จากนั้นค่อยทำการย้ายลงในที่ที่ต้องการ กันเกราการปลูก ควรมีระยะห่างประมาณ 15-25 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถปลูกได้โดยนอกจากวิธีอื่น  นอกจากวิธีการเพาะเมล็ด เช่น การปักชำ การตอนกิ่ง ทีนี้ทิศทางการปลูกหากจะว่าตามความเชื่อเกี่ยวกับทิศทาง ต้น กันเกราปลูกในบ้าน ก็ควรปลูกในทิศทางใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ

ราคาซื้อขายต้นกันเกรา

                    กันเกราถือเป็นไม้ดอกยืนต้นที่นิยมปลูกเอาไว้เพื่อเสริมความสวยงามให้กับบริเวณรอบนอกบ้าน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นต้นไม้ที่ส่งกลิ่นหอมหวานน่าชื่นใจให้กับคนที่อยู่บริเวณที่พักอาศัยอีกด้วย ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมาก อยู่ที่สองต้นความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร 2 ต้น ราคา 150 บาท

ทำไมต้นกันเกราจึงเป็นที่นิยม

          คำถามนี้สามารถอธิบายได้แบบง่าย ๆ เลยว่าเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะใบร่วงน้อย ดูแลง่าย มีกลิ่นหอม นอกจากนั้นต้นไม้ชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยสรรพคุณต่าง ๆ มากมาย ทั้งทางเภสัชวิทยาและช่วยส่งกลิ่นหอมให้กับพื้นที่นั้น ๆ

Categories
ต้นไม้มงคล

พญาสัตบรรณ ต้นไม้เก่าแก่ของไทย กลิ่นหอมอบอวลที่ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึง

พญาสัตบรรณ เป็นเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 12–20 เมตร มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบได้ในทุกภาคของประเทศไทย ที่สำคัญมาก ๆ เลยก็คือ ต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย ลักษณะภายนอกจะมีเปลือกหนาแต่เปราะ ผิวต้นมีสะเก็ดเล็ก ๆ สีขาวปนน้ำตาลรอบต้น เมื่อลองกรีดดูจะมียางสีขาวไหลซึมออกมา ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขามากลักษณะเป็นชั้น ๆ

พญาสัตบรรณ ไม้มงคลประจำจังหวัดสมุทรปราการ

พญาสัตบรรณอยู่ในวงศ์ Apocynaceae พญาสัตบรรณชื่อสามัญ คือ White Cheesewood ส่วนชื่อไทย คือ สัตบรรณ ความ หมาย พญาสัตบรรณ คือ ช่อของต้นสัตบรรณมักจะประกอบด้วยใบทั้งหมดเจ็ดใบนั่นเอง ถือเป็นไม้มงคลของจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พุทธศักราช 2537 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับพระราชทานพันธุ์ไม้ดังกล่าวจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ในวโรกาสที่เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดวันรณรงค์โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ ปีที่ 50 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ลักษณะต้นพญาสัตบรรณ ผลออกเป็นฝัก ลักษณะฝักยาว เป็นฝักคู่หรือฝักเดี่ยว ลักษณะเป็นเส้น ๆ กลมเรียว มีความยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตกเป็น 2 ซีก มีขุยสีขาวสามารถปลิวไปตามลมได้

พญาสัตบรรณสรรพคุณหลากหลาย มากมายไปด้วยประโยชน์

          พญาสัตบรรณเป็นอีกหนึ่งไม้ยืนต้นที่ใครหลายคนมักติดภาพจำต้นพญาสักตะบัน กลิ่น โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่กลิ่นจะแรงเป็นพิเศษ แต่ความจริงแล้วต้นไม้ชนิดนี้ก็เต็มไปสรรพคุณดี ๆ มากมายเหมือนกันนะ

  1. เปลือกต้นนั้นมีรสขม สามารถใช้เป็นยาขม ช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้น
  2. เปลือกต้นสัตบรรณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน
  3. น้ำยางจากต้น ใช้หยอดหู แก้อาการปวดหูได้
  4. น้ำยางจากต้น ใช้อุดฟัน เพื่อแก้อาการปวดฟันได้
  5. ใบอ่อนใช้ชงดื่ม ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน หรือโรคลักปิดลักเปิดได้
  6. เปลือกต้นใช้แก้หวัด แก้อาการไอ รักษาหลอดลมอักเสบ
  7. ช่วยแก้อาการไข้
  8. เปลือกต้น นำมาต้มน้ำดื่ม รักษาอาการไข้

พญาสัตบรรณวิธีการปลูก

           พญาสัตบรรณที่มีการปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ดจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เพราะจะทำให้ต้นมีความแข็งแรงและยึดเกาะได้ดี ด้วยการนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ มาปลูกลงในกระถางเพาะกล้า ที่ใส่ดินร่วนปนทรายผสมขุยมะพร้าวเอาไว้ และรองก้นด้วยปุ๋ยคอก แนะนำว่าเวลาจะปลูกควรจะเพาะต้นกล้า แค่กระถางละ 1 ต้น หลังจากปลูกไปได้ 90 วัน บวกกับว่าต้นมีความแข็งแรงดีแล้ว ก็ให้ย้ายต้นกล้าปลูกในหลุมปลูกดินร่วน เน้นบริเวณที่เป็นพื้นที่โล่ง ห่างจากตัวบ้านหรือแนวกั้นรั้วสักประมาณ 20-30 เมตร เพื่อความปลอดภัยไม่ทำลายโครงสร้างอาคาร

พญาสัตบรรณราคาขายปัจจุบัน เช็คราคาได้ที่นี่

          พญาสัตบรรณต้นพญาสักตะบัน ราคา ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ ต้นละ 180 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเลย ใครที่อยากได้ไม้ร่ม มีกลิ่นหอมให้กับตัวบ้านแล้วล่ะก็ ลองซื้อต้นไม้ชนิดนี้ไปปลูกดูสิ รับรองว่าช่วยให้บรรยากาศร่มรื่นได้ดีเลยล่ะ

ทำไมผู้คนถึงนิยมปลูกต้นสัตบรรณ

นอกจากประโยชน์หลัก ๆ เรื่องการให้ร่มเงาและกลิ่นหอมแล้ว ต้นสัตบรรณยังมีความหมายอันเป็นสิริมงคล ด้วยลักษณะต้นทรงพุ่มที่ดูคล้ายฉัตร หรือ ฉัตรบรรณ เครื่องชั้นสูงที่ใช้ในขบวนแห่นั้น เชื่อกันว่ามีความหมายที่เป็นเกียรติเป็นพญา น่าเคารพยกย่อง

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

จันทน์ผา ไม้ประดับยอดฮิต เปลี่ยนบ้านให้สวยหรูมีสไตล์ด้วยต้นไม้สวย

จันทน์ผา เป็นต้นไม้ประดับที่มีความสวยงาม อีกทั้งยังราคาค่อนข้างสูง สามารถนำไปปลูกได้ในกระถาง ไม่ต้องกังวลเลยว่าต้นไม้นี้จะเคลื่อนย้ายลำบาก หรือ ว่ารากจะไปทำให้บ้านของเราพัง เนื่องจากเป็นต้นไม้ขนาดกลาง ไม่ใหญ่มากนัก ที่นิยมปลูกมากที่สุดคือ ความสูงประมาณ 1.5-3.5 เมตร แต่ต้นนี้ก็สามารถเติบโตสูงได้ถึง 16 เมตรเลยทีเดียว นิยมนำมาประดับตกแต่งบ้าน และจัดสวนสไตล์มินิมอลสวย ๆ อีกทั้งตอนเช้ากับตอนเย็น ต้นนี้จะส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกมาด้วย

จันทน์ผา ลักษณะภายนอก

จันทน์ผามีลักษณะ ใบเรียวแหลม ออกมาจากลำต้นอวบใหญ่ของต้น ใบจะมีสีเขียวเข้มสลับกับสีอ่อน จันผา ดอก เป็นช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ออกตามซอกใบมีดอกจำนวนมาก จันผา ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Dracaena cochinchinensis (Lour.) S.C.Chen ชื่อ จันผา ความหมาย คล้ายกับต้นวาสนาเพราะเป็นไม้วงศ์เดียวกัน นอกจากนี้ต้นนี้ยังอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นผักชีฝรั่งด้วยนะ

จันทน์ผาสรรพคุณและคุณประโยชน์

          จันทน์ผานอกจากในบริบทของไม้ประดับที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านและสถานที่ต่าง ๆ แล้วนั้น ยังมี สรรพคุณ จันผา ได้แก่

  1. แก่นมี รสขมเย็น ช่วยบำรุงหัวใจให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ช่วยแก้ไข้ ลดอาการไข้ได้
  3. ช่วยแก้ไอ
  4. เมล็ดสามารถใช้รักษาอาการดีซ่าน ตัวเหลือง
  5. ใช้ลำต้นช่วยแก้อาการปวดศีรษะ 
  6. ช่วยลดและแก้อาการเหงื่อตก อาการกระสับกระส่าย
  7. ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้ดีมาก

จันทน์ผาวิธีปลูกและดูแลรักษา

          จันทน์ผาวิธีขยายพันธุ์ จันผา มีวิธีหลัก ๆ อยู่ 2 วิธีคือ การเพาะเมล็ด และ การปักชำ การดูแลคือพยายามคุมปริมาณน้ำไม่ให้แฉะมากเกินไป ระยะปลูกที่เหมาะสม คือ 1-4 เมตร ทรงพุ่มของต้นนี้จะสวยงามได้ที่ก็ตอนปลูกได้ประมาณ 6-12 เดือนขึ้นไป เป็นต้นไม้ที่ทนแล้ง สามารถทนดินเค็ม และสามารถทนการปะทะของแรงลมได้ จริง ๆ ต้นไม้ชนิดนี้ดูแลค่อนข้างไม่ยากเลย ใครที่อยากได้ไม้สวย ๆ ไว้ประดับบ้านบอกเลยว่าเหมาะมาก ๆ

จันทน์ผาราคาขายอยู่ที่เท่าไร

          จันผา ราคา ปัจจุบันราคาขายจะเริ่มต้นที่ 500 บาทไปจนถึง 1000 บาท แต่ถ้าต้นนั้นมีลักษณะพิเศษสวย ๆ อย่างเป็นแบบใบด่างหรือมีสีสวยพิเศษก็สามารถอัพราคาขายได้ถึงหลักพัน ถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว

ทำไมต้นจันผาถึงกลายเป็นไม้ประดับที่นิยมมาก

          ต้นจันทน์ผาเป็นไม้ประดับที่มีเอกลักษณ์ด้วยรูปทรงที่มีความสง่าของตัวเอง ใบเรียวคมสวย เหมือนกับหอกหรือดาบ ตามความเชื่อการได้ปลูกจันผาไว้ในบ้านจะเหมือนการปกป้องอันตรายเข้าบ้านได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่มีเวลามากนักก็สามารถดูแลได้

Categories
ต้นไม้มงคล

สาคูด่าง ไม้มงคลที่มาพร้อมกับความสวยงาม ปลูกง่าย ดูแลไม่ยากอย่างที่คิด

สาคูด่าง เป็นอีกหนึ่งไม้มงคลสุดฮิตที่ถึงแม้ว่าจะแอบมีราคาสูง แต่ชื่อหรือไม่ว่าเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว ลักษณะโดยทั่วไปแล้วจะเป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกที่มีลำต้นใต้ดินนั่นเอง โดยจะมีลักษณะหัวว่านเป็นแง่ง หรือมีเหง้าสีขาว จึงคล้ายกับต้นสาคู ซึ่งเนื้อในหัวจะมีสีขาวออกเทา โดยมีข้อเป็นปล้อง ๆ ยาว 10 ถึง 15 เซนติเมตร ลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดคือมีสีเขียวสลับเขียวแก่ซึ่งมีลักษณะที่สวยงามมาก ตัวไม้จะมีกาบก้านใบยาว และใบมีขนาดใหญ่ ซึ่งมีลักษณะใบรูปรีขอบขนาน ในส่วนของปลายใบเรียวแหลมเป็นติ่งหนาม ขอบใบจะเรียบ ส่วนของโคนใบจะมนมีขอบตัด ซึ่งใบอ่อนของไม้ชนิดนี้คือลักษณะจะเกือบเป็นสีขาวล้วน และแน่นอนว่าลายสีขาวที่เป็นแถบสลับกับลายสีเขียวนั้นหากมองเผิน ๆ จะสวยงามคล้ายนกยูงนั่นเอง

สาคูด่าง มีวิธีการปลูกและการดูแลอย่างไร

สาคูด่างนั้น เป็นไม้ที่เติบโตได้ดีในในลักษณะ ดินร่วนปนทราย หรือดินร่วนที่มีการระบายน้ำได้ดี สำหรับสาคูด่าง วิธีดูแลคือ ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป ควรรดให้พอมีน้ำชุ่ม ๆ ไม่ควรจะแฉะ และที่สำคัญคือ ตัวของสาคูด่าง ไม่จำเป็นต้องกดดินเยอะ ๆ เพราะไม้ชนิดนี้ชอบดินที่ระบายอากาศ แน่นอนว่ากระถางที่ปลูกก็ต้องมีการระบายน้ำที่ดีด้วย

สาคูด่างนั้นเห็นบอกราคาสูง แล้วสูงประมาณไหนสาคูด่าง  

ด้วยความที่เป็นไม้ประดับที่มีความสวยงาม และเสริมความเป็นสิริมงคล จึงทำให้ต้นสาคูด่าง ราคามีได้ตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป บางต้นเป็นหลักพันได้เลยทีเดียว

สาคูด่างเรื่องของสรรพคุณ จะช่วยเรื่องอะไรกันนะ

        สาคูด่างปกติแล้วจะเลี้ยงไว้ตกแต่งสวนเพื่อความสวยงามและเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ก็ยังสามารถนำมาเป็นสรรพคุณทางยาได้เช่นกัน โดยสาคูด่าง สรรพคุณ นั้นจะมีการนำหัวมาใช้ต้มเป็นยาเพื่อแก้ร้อนในได้ สามารถนำมาดูแลรักษาเด็กที่เป็นอีสุกอีใส มีส่วนช่วยในอาการแก้เจ็บคอ

สาคูด่างขาว นี้แหละ ทำให้บ้านดูมีความเป็นวินเทจมากขึ้น

        สาคูด่างเป็นไม้มงคลที่เชื่อว่าปลูกไว้เพื่อป้องกันภัยอันตราย และช่วยเสริมเสน่ห์อีกด้วย ที่สำคัญสาคูด่าง ปลูกไม่ยาก แถมทำให้บ้านดูสวยมีสไตล์มากขึ้นแบบเป็นเท่าตัวเลยแหละ ด้วยความที่มีด่างขาวตัดกับสีเขียว สวยแบบธรรมชาติสร้างมา ดูหรูหรามีระดับ ทำให้เราจะได้เห็นตามคาเฟ่ร้านกาแฟ ที่นิยมมาปลูกได้นั่นเอง

แล้วสาคูด่าง ชอบแดดไหม คำถามยอดฮิตนี้มีคำตอบ

        เพราะว่าต้องการน้ำน้อยอยู่แล้ว ทำให้แสงไม่ค่อยจำเป็นมากนัก จึงเหมาะสำหรับการปลูกในที่ร่มนั่นเอง เพื่อน ๆ ที่กำลังเริ่มต้นปลูกจึงวางใจได้เลย มีแสงอ่อน ๆ ในที่ร่ม ๆ ก็เพียงพอมากแล้วสำหรับการดูแลไม้ประดับชนิดนี้

Categories
ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน

ยางอินเดีย ต้นไม้มงคล ที่มีดีมากกว่าความหมายมงคล

ยางอินเดีย

ยางอินเดีย เรียกได้ว่าเป็นต้นไม้ที่ในปัจจุบันผู้คนนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับในบ้านกันอย่างแพร่หลาย ด้วยรูปร่างลักษณะที่ไม่กินพื้นที่สามารถวางไว้ในบ้านเพื่อฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้ ทำให้ใคร ๆ เลือกต้นไม้ชนิดนี้มาปลูกในบ้านกันอย่างมากมาย อีกทั้งบ้านใดที่มีโทนสีขาวหรือความมินิมอลอยู่นั้นตอบโจทย์มาก ๆ เลยค่ะ เนื่องจากสีของใบของเขาที่เป็นสีล้วน ๆ นั้น รับกันได้ดีกับผนังที่เป็นสีพื้นอ่อน ๆ ได้อย่างดีเลย และวันนี้เราก็มีเรื่องราวน่ารู้ของต้นไม้ชนิดนี้มาฝากทุกคนกันค่ะ

ยางอินเดีย ดูแลยังไง ปลูกในบ้านได้ไหม โพสต์นี้มีคำตอบ

ยางอินเดีย

ยางอินเดีย ต้นไม้ที่ในปัจจุบันก็ยังมีราคาที่สูงอยู่จะเป็นอย่างไรและมีวิธีการปลูกรวมถึงวิธีการดูแลอย่างไรให้สวยงามและโตเร็วบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ยางอินเดีย ลักษณะ

          ยางอินเดีย เป็นไม้ยืนต้นที่มีทั้งแบบพุ่มและแบบเลื้อย โดยจุดเด่นของต้นไม้ชนิดนี้ที่จะทำให้เรารู้ได้ทันทีเลยก็คือ ใบ ที่เป็นทรงรี มีสีมันเงาตรงหน้าใบ โดยในตอนแรกที่แตกใบอ่อนนั้นเราจะเห็นว่ามันจะเป็นสีแดง แต่เมื่อโตขึ้นก็จะเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียวและพัฒนาเป็นอื่น ๆ ต่อไป ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์นั่นเอง อีกทั้งลำต้นของมันยังสามารถสูงได้ถึง 30 เมตรเลยด้วย

ยางอินเดีย วิธีปลูก

  1. ใช้ดินใบก้ามปู 1 ส่วน และกาบมะพร้าวสับ 1 ส่วน ผสมกัน
  2. นำกาบมะพร้าวสับมารองก้นกระถาง จากนั้นนำดินที่เตรียมไว้เมื่อครู่ใส่ลงไปให้ได้ประมาณครึ่งกระถาง
  3. ใส่ปุ๋ยเม็ดลงไปประมาณ 1 ช้อน จากนั้นนำต้นยางอินเดียใส่ลงไปและนำดินที่เหลือใส่ให้เต็มกระถาง
  4. รดน้ำให้ชุ่ม และนำไปวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

ยางอินเดีย ดูแล

          วางต้นไม้ไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงรดน้ำอย่างพอเหมาะ หมั่นเช็ดใบให้มีความมันเงาอยู่เสมอบำรุงด้วยปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง

เลี้ยง ยางอินเดีย แบบนี้ มีแต่ได้กับได้

ยางอินเดีย

ยางอินเดีย ความหมาย ของมันคือพลังชีวิตค่ะ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับทิศทางในการวาง และเรื่องที่ควรระวังเลยคือเรื่องของแดดเพราะอาจทำให้ ยางอินเดีย ใบไหม้ ได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องถามเลยว่า ยางอินเดียชอบแดดไหม เพราะเขานั้นก็พออยู่ได้ แต่จะอยู่ทั้งวันก็คงไม่ดี จึงต้องเลือกที่เลี้ยงที่เหมาะสม หากใครอยากเลี้ยงก็ลองศึกษาเรื่องยางอินเดีย กันดูได้เลย

บทสรุปส่งท้าย

   ยางอินเดีย ก็เป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่น่าเลี้ยงไว้ที่บ้านมาก ๆ เพราะ ยางอินเดีย สรรพคุณ หลัก ๆ เลยก็คือสามารถฟอกอากาศในบ้านได้ ซึ่งก็ถือเป็นจุดเด่นเลยค่ะ อีกทั้ง ยางอินเดีย ราคา ก็ยังมีทั้งสูงและราคาที่เราพอรับไหว หากใครอยากเลี้ยงแล้วล่ะก็ ต้องลองหามาปลูกไว้ที่บ้านกันแล้วล่ะค่ะ

Categories
กระถางต้นไม้

แคคตัส กระบองเพชรจิ๋ว แต่แจ๋ว ที่คุณควรมี

แคคตัส

แคคตัส ต้นไม้ต้นเล็ก ๆ ที่เหมือนต้นกระบองเพชร ที่ใคร ๆ ก็นิยมปลูกเอาไว้ในบ้าน ในห้อง หรือที่โต๊ะทำงานเพื่อความสวยงามและความน่ารักนั่นเอง ซึ่งที่จริงแล้วรู้หรือไม่ว่าต้นไม้ชนิดนี้นั้นมีเรื่องที่น่ารู้มากกว่าที่คิด และวันนี้เราก็มีเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับต้นไม้ชนิดนี้มาบอกทุก ๆ ท่านให้ได้รู้จักกันค่ะ ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีอะไรที่น่ารู้บ้าง ก็มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

แคคตัส คืออะไร ปลูกเองได้ไหม เลี้ยงยังไงให้ไม่ตาย

แคคตัส

แคคตัส คือ ต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีการดัดแปลงพันธุกรรมให้เป็นต้นกระบองเพชรที่มีขนาดเล็ก อีกทั้งยังมีหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกกันเลย เรามาดูกันเลยว่ามีอะไรที่ควรรู้บ้าง

เเคคตัสลักษณะ

ลักษณะของต้นไม้ชนิดนี้นั้น ก็คือจะมีความคล้ายคลึงกันกับต้นกระบองเพชร แต่จะเป็นขนาดย่อส่วนลงมา ซึ่งเป็นหนึ่งในพืชอวบน้ำที่เลี้ยงง่าย ทนได้ต่อทุกสภาพอากาศ สามารถปลูกไว้ในบ้านได้

แคคตัสวิธีปลูก

  1. นำหินไซส์ใหญ่และไซส์เล็กรองก้นกระถาง
  2. ใส่ดินประมาณครึ่งกระถาง นำแคคตัสใส่ลงไปและใส่ดินเพิ่มรอบ ๆ กระถางจนเต็มพอดี
  3. เคาะกระถางเล็กน้อยเพื่อให้รากแน่น

แคคตัสดูแล

รดน้ำในปริมาณที่เหมาะสมหากรู้สึกว่าดินนั้นมีความแห้ง บำรุงดินด้วยปุ๋ยเดือนละ 1 ครั้ง และควรให้เขาเจอแดดประมาณ 5-6 ชั่วโมงจะกำลังดีมาก

เลี้ยง แคคตัส ในบ้าน ตกแต่งบ้านแบบมินิมอล

แคคตัส

สำหรับแคคตัส ที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกันก็เช่น แคคตัสช้าง , แคคตัส โลบิเวีย , และ แคคตัสแอสโตร ซึ่งเป็นต้นไม้ที่หลาย ๆ บ้านนิยมนำมาเลี้ยงกัน แต่ก็ยังมีอีกหลากหลายพันธุ์เลยค่ะที่เราไม่ได้พูดถึง ซึ่งก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน เนื่องจากพืชอวบน้ำชนิดนี้เป็นพืชที่มีขนาดเล็กแบบจิ๋ว จึงให้ความรู้สึกว่าหากเลี้ยงแล้วมันจะต้องน่ารักแน่ ๆ และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ อีกทั้งใครที่อยากเริ่มเลี้ยงต้นไม้แต่มีเวลาว่างน้อยมาก ๆ ยิ่งตอบโจทย์เข้าไปกันใหญ่ค่ะเพราะมันดูแลง่ายมาก ๆ แถมยังสวยในแบบของตัวเอง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และที่สำคัญปลูกได้ง่าย ๆ ไม่เปลืองพื้นที่ในบ้านอีกต่างหาก

บทสรุปส่งท้าย

แคคตัสต้นไม้อวบน้ำ ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ใครจะไปคิดว่าต้นไม้ที่มีขาดเล็ก ๆ แบบนี้นั้นก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมายได้เหมือนกัน โดยเฉพาะ แคคตัสหายาก ที่ทำรายได้ได้ดีเป็นอย่างมาก และยังมี แคคตัสราคา ถูกที่เราเองก็สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป ให้เราได้นำมาเลี้ยงไว้ที่บ้านอีกมากมายเลยค่ะ หากใครที่สนใจอยากลองเลี้ยงต้นไม้ชนิดนี้ดูสักครั้ง ก็ลองซื้อมาเลี้ยงได้เลย รับรองว่าถูกใจอย่างแน่นอน

Categories
ต้นไม้มงคล

สนฉัตร ไม้ประดับแสนสวย พร้อมชื่อแสนมงคล

สนฉัตร เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีอายุอยู่ได้นานหลายสิบปีด้วยกัน ลักษณะจะมีลำต้นสูงมากกว่า 6 เมตร ขึ้นไป จนสามารถสูงได้ถึง 45-60 เมตร และเมื่อต้นสนนี้เติบโตเต็มที่แล้ว และลำต้นของสนนั้นจะสามารถมีขนาดกว้างได้ถึง 1.5-3 เมตร เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มาก ๆ ต้นสนชนิดนี้ที่มีถิ่นกำเนิดบนเกาะนอร์ฟอล์ โดยสายพันธุ์ ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและทรงสวยที่สุด เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมในประเทศไทยที่สุด ก็คือสายพันธุ์ ARAUCARIA EXCELSA จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการจัดอันดับว่ามีทรงพุ่มสวยที่สุดในบรรดาสายพันธุ์ทั้งหมด ใบมีสีเขียวสด ลำต้นตั้งมั่นคงแข็งแรง ไม่ค่อยทิ้งใบ รากกระจุกตัวไม่ทำลายอาคารบ้านเรือน เหมาะมากสำหรับคนที่อยากหาต้นไม้สวย ๆ ไปแต่งรอบบ้าน

สนฉัตร ลักษณะภายนอกที่สวยงามคล้าย “ฉัตร” จนเป็นที่มาของชื่อ

สนฉัตรเป็นไม้ขนาดใหญ่ที่มีทรงที่มีเอกลักษณ์ แตกกิ่งแผ่ออกเป็นชั้น รูปทรงคล้ายฉัตร จนเป็นที่มาของชื่อแสนมงคลนี้นั่นเองสนฉัตร ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Araucaria cookii R.Br.(Salisb.)Franco 

สนฉัตร สรรพคุณที่ดีมีมากเกินเราจะคาดเดา

          สนฉัตรเป็นไม้ยืนต้นที่นอกจากจะกินขาดเรื่องความสวยงามแล้ว เขายังมีดีที่สรรพคุณนับหลายข้ออีกด้วยน้า อันได้แก่ เป็นต้นไม้ที่เราสามารถสกัดน้ำยางออกมาจากลำต้นได้ ซึ่งน้ำยางจะมีกลิ่นหอมมาก นิยมนำไปทำเทียนไข ส่วนด้านการแพทย์ มีการใช้น้ำยางแก้ฟกซ้ำ แก้ปวดเมื่อย และรักษาบาดแผลได้ ยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของเมล็ด ยังสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้ด้วยนะ

สนฉัตรวิธีปลูก วิธีการดูแลให้ต้นไม้แข็งแรงสวยงาม

           สนฉัตรเป็นไม้ยืนต้นดังนั้นแล้วสนฉัตร ขยายพันธุ์ ที่นิยมส่วนมากจะเป็นการเพาะด้วยเมล็ด เนื่องจากเป็นการทำให้ต้นสนนั้นเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ลำต้นสูงมาก อาจจะไม่เหมาะนักสำหรับคนที่ต้องการปลูกสนเพื่อตกแต่งบ้าน เพราะต้นสนที่ได้จะตัดแต่งทรงได้ค่อนข้างยาก กิ่งก้านจะไม่ได้มากนัก เมื่อเทียบกับอีกวิธีในการปลูกด้วยการปักชำ เพราะจะทำให้ได้ต้นเตี้ย ตัดแต่งทรงง่าย มีกิ่งเยอะ ทำให้สนดูเป็นพุ่มสวยงามสนฉัตร ดูแล

ไม่ยากนัก เพียงวางต้นสนให้ไกลจากช่องรับลม เพื่อการที่ต้นต้องปะทะกับลมโดยตรงแรง ๆ อาจทำให้เสียทรงได้  อีกอย่างที่ควรทำเป็นประจำ คือการหมุนกระถางของต้นสน เพราะโดยธรรมชาติแล้วต้นสนชนิดนี้จะเติบโตโดยเอนเข้าหาแหล่งกำเนิดแสง เช่นเดียวกับดอกทานตะวัน  ดังนั้นให้เราทำการหมุนกระถาง ¼ รอบทุกสัปดาห์เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม้เจริญเติบโตผิดปกติ จนเสียรูปทรงที่สวยงามไปนะคะ

เช็คราคาสนฉัตรฮาวาย ต้นไม้ชนิดนี้ ตามท้องตลาดอยู่ที่เท่าไร

          สนฉัตรเป็นไม้ที่มีหลายเรทสนฉัตร ราคา เพาะด้วยการชำกิ่ง ขนาดต้นสูง ไม่เกิน 1 เมตร มีราคาอยู่ที่หลักร้อยขึ้นไป ราคาอาจเพิ่มขึ้นจนถึงระดับหลักพันบาท ถึงหลายหมื่นบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับอายุ ขนาด และความสมบูรณ์แข็งแรงของต้น

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

ทองหลาง ต้นไม้เอาใจสายมูเตลู เรียกทรัพย์เรียกโชคเข้ามารัว ๆ ไม่หยุด

ทองหลาง

ทองหลาง คือ ต้นไม้ชนิดหนึ่ง จัดเป็นไม้ยืนต้นตระกูลถั่ว ถือเป็นอีกหนึ่งชนิดของต้นไม้มงคลของไทย ที่นิยมปลูกกันมาก เนื่องจากเรื่องความเชื่อที่ว่าหากใครปลูกต้นนี้จะช่วยดึงดูดทรัพย์สินเงินทองมากองที่ไว้กับคนที่ปลูก ยิ่งไปกว่านั้นเพราะต้นไม้ชนิดนี้มีสีทอง ทำให้คนสมัยก่อนนิยมนำใบของต้นนี้มาประกอบพิธีมงคล ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่เป็นต้น

ทองหลาง

ทองหลาง ลักษณะภายนอกของต้น

ทองหลางมีใบที่ออกเป็นช่อ โดยในแต่ละก้านใบจะมีจำนวนทั้งหมด ประมาณ 3 ใบ มีลักษณะรูปร่างที่เป็นใบมน หรืออาจเรียกว่า ทองหลางใบมน บริเวณปลายใบจะแหลมยาวคล้ายกับใบโพธิ์ ใบมีความกว้างประมาณ 2-4 นิ้ว มีความประมาณ 2-5 นิ้ว บริเวณหลังใบจะเป็นสีด่างเหลืองอมเขียวทองหลาง ภาษาอังกฤษ คือ Indian Coral Tree หรือ Variegated coral tree หรือ Variegated Tiger’s Claw ทองหลางชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Erythrina variegate Linn

ทองหลางสรรพคุณดี ๆ ที่คุณควรรู้ก่อนเลือกปลูกไม้ชนิดนี้

ทองหลางมีประโยชน์ที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นทองหลาง สรรพคุณ ทางยา และใช้ประกอบพิธีกรรมที่สำคัญหลายอย่าง

1. ใบสดสามารถตำพอกแผลดูดหนองทำให้แผลแห้งหายเร็วขึ้น

2. ต้นเปลือกและราก ช่วยให้หลับสนิท

4. แก่นของต้นไม้ มีสรรพคุณช่วยแก้ฝีในท้อง

5. ทองหลางกินใบสามารถนำมาต้ม แล้วดื่มจะช่วยแก้โรคนิ่ว ช่วยให้นิ่วได้ขับออกมา

6. ดอกมีสรรพคุณเป็นยาขับโลหิตระดูของสตรี

7. รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ริดสีดวง

8. ใบเป็นยาแก้ริดสีดวง

9. ฝักมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงน้ำดี

10. ใบของต้นใช้ประกอบพิธีกรรม เพื่อบันดาลให้เกิดความเป็นสิริมงคล

ทองหลาง วิธีการปลูกและดูแลรักษา

ทองหลางในอดีตนั้นเราจะนิยมการขยายพันธุ์ด้วยการใช้วิธีเพาะเมล็ด หรือไม่ก็ปักชำเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันมีวิธีขยายพันธุ์ของทองหลาง คือ การรอให้ต้นแก่นั้นล้มแล้วจะมีต้นใหม่เกิดขึ้นภายใน ซึ่งเราสามารถนำต้นอ่อนไปปลูกต่อได้ จะมีความแข็งแรงและเลี้ยงง่าย

ทองหลาง

เช็คราคา ทองหลางป่า

ทองหลางราคาที่จำหน่ายจะมีความแตกต่างกันตามวิธีการที่ใช้ปลูกเป็นหลัก อย่างต้นทองหลางมีความสูง 50-70 เซนติเมตร ที่ได้มาจากวิธีการเพาะเมล็ดจะอยู่ที่ ราคา 20บาท ส่วนต้นมีที่ความสูง 60-70 เซนติเมตร โดยทำการปักกิ่งชำ จะมีราคาจำหน่ายต้นละ 100 บาท  ซึ่งราคาจะต่างกันเนื่องจากการดูแลที่แตกต่างกันนั่นเอง

ทำไมคนไทยถึงนิยมปลูกต้นไม้ชนิดนี้

          แน่นอนว่าวัฒนธรรมและประเพณีต่าง ๆ ของคนไทยนั้นมีความสัมพันธ์กับความเชื่อเรื่องความสิริมงคล การปลูกต้นนี้ทำให้เกิดความมงคล เสริมโชคลาภนั่นเอง ทำให้หลายคนเลือกที่จะปลูก และการดูแลก็ไม่ยากมากนัก ทำให้ต้นไม้ชนิดนี้เป็นไม้ไทยที่ได้รับความนิยมสูงมาก

Categories
ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ต้นไม้มงคล

ต้นโกสน

ต้นโกสนราชาแห่งไม้ใบ ไม้มงคล เสริมดวงบารมี นิยมปลูกจัดแต่งสวนในบ้าน !

ต้นโกสน

ยังคงปังไม่หยุดจริง ๆ สำหรับกระแสการปลูกต้นไม้ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แถมถ้าต้นไหนที่ดาจับแล้วด้วย ราคาก็จะอัปพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ต้นไม้ราคาถูกก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย อย่างไรก็ตามหากซื้อมาแล้วไม่รู้ใจน้อง ก็อาจจะมีงอแง ล้มป่วย แล้วก็ตายไปในที่สุด เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่รอช้ากันเลย วันนี้เราก็ได้นำ ต้นโกสน ไม้มงคลยอดนิยม ที่ควรค่าแก่การปลูกไว้ในบ้าน เพื่อเสริมสิริมงคลกันยาว ๆ ดวงไม่ตกตลอดทั้งปี จะมีรายละเอียดอะไรน่าสนใจอีกบ้างนั้น ตามไปรับชมไปพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ

ทำความรู้จักกับ ต้นโกสน

คำว่า “ต้นโกสน” มาจาก Common name หรือชื่อสามัญว่า Croton / Garden croton ต้นโกสนชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Codiaeum variegatum คำว่า Codiaeum มาจากภาษามาเลย์ เนื่องจากเขามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศมาเลเซีย นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่ค้นพบจึงตั้งชื่อตามภาษามาเลย์ และ Variegatum เป็นภาษาละติน หมายถึงสีใบไม้ที่มีความแตกต่างกัน โกสนจัดเป็นพืชที่มีความโดดเด่นที่ใบ เขามีหลากหลายสายพันธุ์ที่สวยงาม เป็นพืชมีดอกช่อที่เกสรตัวผู้และเมียบานไม่พร้อมกัน จึงมีโอกาสได้เห็นลูกผสมใหม่ ๆ ของโกสนอย่างต่อเนื่อง

ต้นโกสน

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

  • ต้น

โกสนจัดเป็นไม้ยืนต้น พุ่มขนาดเล็ก เมื่อมีการเจริญเติบโตเต็มที่จะมีความสูง 3-5 เมตร มีเส้นรอบวงกลม 20-30 เซนติเมตร ผิวสีน้ำตาลปนเทา ลำต้นตรง แตกกิ่งก้นสาขาออกเป็นพุ่ม

  • ใบ

ลักษณะใบเดี่ยว กว้าง 1-2 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ขอบเรียบ เนื้อของใบคล้ายกระดาษ การเรียงตัวของเส้นจะมีความคล้ายแหแบบขนนก สีของใบมีหลากหลายสีแล้วแต่สายพันธุ์นั้น ๆ ท้องใบจะมีสีอ่อนกว่า

  • ดอก

มีลักษณะการออกดอกเป็นช่อกระจะ มีวงกลีบที่เชื่อมติดกัน สีม่วง ได้แก่ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ เกสรตัวเมีย 1 อัน และตัวผู้ 1 อัน

  • ผล

มีลักษณะผลแห้ง ผลสุกสีม่วง หากผลแก่จะแตกออกตามรอยประสาน ขนาด 0.5 – 1 เซนติเมตร มีเมล็ดสีน้ำตาลเป็นกระ 2 เมล็ด

  • การขยายพันธุ์

สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยเมล็ด การตอน และการปักชำ โดยการตัดกิ่งออกมาและปักชำน้ำ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้แล้ว

ต้นโกสน

ความเชื่อของคนไทยในการปลูกต้นโกสน

ต้นโกสนไม้มงคล ที่มีความเชื่อกันมาอย่างยาวนานว่า เป็นต้นโกสน เศรษฐี จะช่วยสร้างบุญกุศล คุณงามความดี และเสริมสิริมงคลให้แก่ผู้อาศัยหรือคนในครอบครัว นิยมนำมาปลูกเพื่อประดับบารมี เสริมสร้างความสุข ป้องกันสิ่งอันตรายทั้งปวง โดยควรปลูกไว้ในทิศตะวันออกจึงจะส่งผลดี

หากใครกำลังมองหาต้นไม้ปลูกง่าย โตเร็ว และสวยงาม “ต้นโกสน” ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ รับรองว่าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มสีสัน มีชีวิตชีวาได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้บ้านของเราเย็นขึ้นง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรมากมาย ได้ประโยชน์หลายต่อขนาดนี้ถ้าไม่ลองนำมาปลูก บอกเลยว่าพลาดมาก

Categories
ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ต้นไม้มงคล

กวักพระพรหม

กวักพระพรหมต้นไม้เสริมดวง เรียกโชคลาภ เงินทอง ปลูกแล้วชีวิตดี โดนใจสายมู!

กวักพระพรหม

เริ่มต้นปีใหม่ 2565 กันอีกครั้งของคนไทย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปีที่อะไรหลาย ๆ อย่างรอบตัวเราเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก บางคนต้องกักตัวอยู่บ้าน ทำงานแบบ WFH รวมถึงการเรียนออนไลน์ เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ไหน ๆ ก็อยู่บ้านกันทั้งที วันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาแก้เบื่อด้วยการปลูกต้นไม้ จัดสวนในบ้าน เพื่อแต่งบ้านใหม่กันดีกว่า เพิ่มเป็นการปรับรีเฟรชให้ตัวเองรู้สึกสดชื่น ไม่ห่อเหี่ยวในปีขาลนี้ แต่จะดียิ่งขึ้นไปอีกหากปลูก กวักพระพรหม ต้นไม้มงคลที่ช่วยเสริมดวงให้เฮง ๆ ปัง ๆ แต่จะปังในเรื่องใดบ้าง ตามไปรับชมกันเลย

กวักพระพรหม

ทำความรู้จัก กวักพระพรหม

ถ้าหากพูดถึงต้นไม้ด่างที่ตลาดคนรักต้นไม้นิยมเล่นกัน หนึ่งในนั้นจะต้องมีกวักพระพรหม อย่างแน่นอนกวักพระพรหม ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schismatoglottis sp. วงศ์ตระกูล  Araceae ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ กวักพระพรหมป่า และกวักพระพรหมใบยาว เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุหลายปี ลักษณะใบรูปรีแกมรูปไข่สีเขียวเข้ม มีแนวร่องใบตื้นสีเขียวสดใสชัดเจน และลายสีขาวเหลือบเงินเทาเป็นแถบตามยาวทั้ง 2 ด้านของแผ่นใบ ตัวก้านกลมเรียว มีความยาวตั้งแต่ 20 – 60 เซนติเมตร ชื่นชอบแสงแดดรำไร หลายคนนิยมนำมาปลูกเพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิต ทั้งเรื่องโชคลาภ สุขภาพ การค้าขาย ซึ่งบางถิ่นเรียกกันว่า “สาลิกาลิ้นทอง”

ประโยชน์ของต้นกวักพระพรหม

กวักพระพรหมไม้มงคล ที่จัดอยู่ในตระกูลว่านนางกวักชั้นครู ซึ่งมีคุณสมบัติหรือสรรพคุณที่ดีเลิศอีกชนิดหนึ่ง ผู้คนนิยมนำมาปลูกไว้บริเวณบ้านเรือน อาคาร หรือร้านค้าต่าง ๆ จัดเป็นว่านเสริมสิริมงคล นำโชคลาภ เมตตามหานิยม บันดาลให้ผู้อาศัยหรือผู้ปลูกเกิดความร่มเย็นเป็นสุข สมบูรณพูลผลตลอดจนความรุ่งเรือง อีกทั้งยังปกป้องอันตรายทั้งปวงได้อีกด้วย

กวักพระพรหม

แนะนำวิธีปลูกและดูแลต้นกวักพระพรหม

  1. กวักพระพรหม ถือว่าเป็นบอนประเภทหนึ่ง ฉะนั้นจึงสามารถปลูกเลี้ยงที่ไม่ยากและไม่ง่ายคือ หากเกิดเชื้อราที่ติดมาพร้อมกับวัสดุปลูก อย่างเช่น ดิน กาบหรือขุยมะพร้าว ปุ๋ยคอกไม่ควรใส่เด็ดขาด เพราะจะให้เขาเน่าตายได้
  2. ควรนำเขามาวางไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร ช่วงเวลาไม่เกิน 10 โมงเช้า เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ขึ้นบริเวณเชิงเขา ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ จึงจะชอบอากาศที่มีความชื้นหน่อย ยกตัวอย่าง ห้องน้ำ หลังบ้าน ระเบียงบ้าน ฯลฯ
  3. ข้อควรระวังในเรื่องของแมลงและศัตรูพืช อย่างแมลงปีกแข็งหลาย ๆ ชนิด ที่อาจเข้ามากัดกินใบไม้ ทำให้ต้นไม้ของคุณไม่สวยงามเหมือนเก่า ควรหมั่นเก็บตัวออกไปทิ้ง เพื่อป้องกันการแพร่พันธุ์ต่อไป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับสาระต้นกวักพระพรหม ที่เรานำมาฝากในวันนี้ นอกจากจะมีความหมายดี เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการนำมาประดับตกแต่งบ้าน อาคาร ร้านค้าต่าง ๆ ได้ รวมถึงช่วยฟอกอากาศให้สดชื่น ทำให้สมองปลอดโปร่งเพิ่มศักยภาพในการทำงาน/เรียนได้เป็นอย่างดี หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจลองหามาปลูกกันดูนะคะ รับรองว่าต้องชอบอย่างแน่นอน