อิพิด่างขาวไม้ประดับฟอร์มสวย เลี้ยงดูง่าย ราคาประหยัด คนรักต้นไม้ไม่ควรพลาด!

ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบันที่ทำให้เราต้องอยู่บ้าน และไม่ต้องออกไปเสี่ยงเจอกับไวรัอันตราย แต่ก็ใช่ว่าค่าฝุ่นหรือมลภาวะในอากาศอย่าง PM 2.5 จะลดน้อยลงไปแต่อย่างใด เราจึงอยากชวนเพื่อน ๆ ที่มีใจรักต้นไม้ หรือรักสุขภาพตัวเองด้วยการแนะนำต้นไม้ฟอกอากาศยอดนิยมอย่าง อิพิด่างขาว ต้นไม้ฟอร์มสวย ราคาไม่แพง! เผื่อเพื่อน ๆ สนใจซื้อมาประดับตกแต่งไว้ภายในบ้าน ห้องนอน หรืออาคาร เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ตามไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ

ทำความรู้จักกับ อิพิ เสน่ห์พันธุ์ไม้ที่ใคร ๆ ต่างหลงรัก

อิพิ หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Epipremnum เป็นพันธุ์ไม้ที่มีลักษณะโดดเด่นอยู่ตรงที่ลวดลายของใบที่สวยงาม ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีลักษณะโดดเด่นแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโทนสี ขนาดรูปร่าง ลักษณะลวดลายพิเศษ เช่น รอยฉลุ ริ้วสีตามกิ่งก้าน หางกระเบน เป็นต้น อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ บางสายพันธุ์จัดอยู่ในวงศ์พลูด่าง บางสายพันธุ์จัดอยู่ในกลุ่มมอนสเตอร่า ซึ่งความหลากหลายตรงนี้เองที่ทำให้ต้นอิพิได้รับความสนใจในกลุ่มนักสะสมไม้ใบอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นไม้มงคล และมีคุณสมบัติในการฟอกอากาศได้อีกด้วย

อิพิด่างขาว สายพันธุ์ยอดนิยม อะไรบ้าง

• อิพิด่างขาว

อิพิด่างขาวเป็นต้นไม้ที่มีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ลำต้นเล็กมีลักษณะใบคล้ายกับรูปหัวใจ แต่หากลำต้นใหญ่จะมีใบที่กว้างและยาวมากกว่า มีโทนสีใบเป็นสีขาวนวลผสมสีเขียวเข้ม ลวดลายสลับกันตามแนวเส้นใบ เมื่อเจริญเติบโตเต็มวัยใบของเขาจะมีลักษณะที่ฉีก จึงทำให้คนเกิดความสับสนระหว่าง อิพิด่างขาวใบฉีก กับ มอนสเตอร่า

• อิพิด่างเหลือง

ลักษณะโดยรวมแล้วจะมีความคล้ายกับพันธุ์ขาว โทนสีจะเป็นสีเขียวผสมกับสีเหลือง โดยรอยด่างเหลืองจะกระจายตัวอย่างอิสระทั่วใบ สวยงามและโดดเด่นมากๆ

วิธีการปลูก

นอกจากจะเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงดูแลง่ายแล้ว ยังมีการเพาะเลี้ยงที่ง่ายด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะนิยมนำมาปักชำ โดยเลือกต้นไม้ที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง ถ้าหากเพิ่งซื้อมาได้ไม่นานให้รอจนกว่ารากจะขยายตัวเต็มที่ก่อนแล้วจึงตัดส่วนยอดมาใช้ หลังจากได้ยอดแล้วจะทำได้ 2 วิธี ได้แก่

1. แช่น้ำทิ้งไว้ในที่ร่มหรือแดดรำไร เพื่อให้รากงอกออกมา จึงจะสามารถนำไปปลูกใส่กระถางได้
2. ใช้แกลบผสมขุยมะพร้าวไว้อย่างละครึ่ง + ดินร่วน จากนั้นนำยอดปักลงไปพร้อมผูกยึดกับไม้ วางไว้ในพื้นที่ร่มและรดน้ำสม่ำเสมอ เมื่อเลี้ยงจนรากโตเต็มวัยจึงค่อยทำการย้ายอีกครั้ง

หากใครที่อยู่บ้านเฉย ๆ ไม่รู้จะทำอะไร เบื่อ เหงา หรือเครียด อยากหากิจกรรมทำยามว่าง หนึ่งในนั้นขอแนะนำอิพิด่างขาว เลยค่ะ เนื่องจาก ต้นอิพิด่างขาว ราคาถูก ได้รับความนิยม สามารถหาซื้อง่าย มีฟอร์มต้นที่สวยงาม เหมาะแก่การนำมาประดับบ้านทั้งภายนอกและภายใน ทั้งสวยทั้งมีประโยชน์ครบถ้วนขนาดนี้ ถ้าไม่ลองซื้อมาปลูกคงเสียดายแย่เลย!

เศรษฐีพันล้าน ต้นไม้มงคล ที่เชื่อว่าปลูกแล้วจะร่ำรวย ทำมาค้าขายขึ้น

เศรษฐีพันล้าน ต้นไม้มงคล ที่เชื่อกันว่า ถ้าปลูกไว้ที่บ้านจะร่ำรวยเงินทอง ถ้าปลูกที่ร้านค้าจะทำให้มีการค้าขายขึ้นขายดีเทน้ำเทท่า เป็นต้นไม้มงคลเรียกทรัพย์ ที่นิยมปลูกเพื่อช่วยปรับฮวงจุ้ยทำให้เงินทองไหลมาเทมาเป็นผลดีต่อคนปลูกและคนที่อยู่ในสถานที่ที่มีต้นเศรษฐีพันล้าน

ต้นเศรษฐีพันล้าน เป็นไม้อวบน้ำที่ขยายพันธุ์ง่ายจึงเป็นพืชที่พบได้ทั่วไปชื่อทางวิทยาศาสตร์: Kalanchoe hybrid วงศ์: Crassulaceae นับว่าเป็นต้นไม้มงคลอีกชนิดนึงที่ได้รับความนิยมในการปลูกสูงมาก เพราะมีการขยายพันธุ์ง่ายเพียงมีต้นเศรษฐีพันล้านต้นเดียวก็สามารถขายพันได้อีกหลายต้นอย่างไม่จำกัด มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศและเลี้ยงง่ายมาก เหมาะกับการเลี้ยงไว้เพื่อฟอกอากาศในบ้าน หรือเลี้ยงเพราะความเชื่อที่ว่าเลี้ยงต้นเศรษฐีพันล้านแล้วจะร่ำรวยเงินทอง ส่งเสริงทางด้านการเงินให้รุ่งเรือง

ราคา และสามารถหาซื้อต้นเศรษฐีพันล้านได้ที่ไหน        

ราคา เนื่องจากต้นเศรษฐีพันล้านเป็นไม้อวบมีการขยายพันธุ์ง่าย ปลูกง่ายและเลี้ยงง่ายมากทนต่อสภาพอากาศ จึงทำให้มีราคาที่ไม่สูงและสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายต้นไม้ทั่วไป ราคาต่อต้นจะอยู่ที่ประมาณ 20-30 บาท

วิธีดูเเลรักษา เเละการเพาะปลูกต้นเศรษฐีพันล้าน

การดูแลรักษาต้นเศรษฐีพันล้านดูและง่ายมาก ๆ เพราะต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นที่ทนต่อสภาพอากาศและเป็นชนิดที่แข็งแรงมาก เพราะอัตราการเจริญเติบโตของต้นนับว่ามีการเจริญเติมโตที่รวดเร็ว

แสงแดด : สามารถปลูกได้ทั้งในสถานที่ที่มีแสงแดดทั้งวัน หรือในสถานที่ร่ม

น้ำ : 1 ครั้งต่อ 1-2 วัน เพราะต้นเศรษฐีพันล้านนับได้ว่าเป็นต้นไม้มงคลที่เลี้ยงดูง่าย ทนแล้งได้ดี

ดิน : ปลูกได้ในทุกสภาพดิน

การขยายพันธุ์ : เมื่อเราเพาะปลูกและเลี้ยงดูต้นเศรษฐีพันล้านได้ในระยะเวลาหนึ่ง เราจะสังเกตเห็นได้ว่าตามใบของต้นเศรษฐีพันล้านจะมีต้นเล็ก ๆ งอกออกมาตามใบ เราสามารถนำต้นเล็กเหล่านั้นมาแยกปลูกในสภาพดินที่เหมาะสม และในสถานที่สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป จะทำให้ต้นเศรษฐีพันล้านที่เรานำมาขยายพันธุ์เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เมื่อต้นไม้โตได้ประมาณหนึ่งค่อยนำออกไปในที่ที่แสงแดงแรงได้

มาดูดพิษในบ้านไปกับต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านอย่าง ต้น เฟิร์นดาบออสเตรเลียกัน

ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนน่าจะสนใจกิจกรรมปลูกต้นไม้กันมากขึ้นโดยเฉพาะต้นไม้ที่จัดอยู่ในประเภทของต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ซึ่งมีให้เราได้ทำความรู้จักกันมากมายเรียกได้ว่าเป็นการเปิดโลกธรรมชาติให้กับใครหลายคน และในวันนี้เราอยากจะมาแนะนำต้นไม้อย่าง เฟิร์นดาบออสเตรเลีย ให้คุณได้รู้จัก เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่สามารถดูดสารพิษและฟอกอากาศให้กับคุณได้เป็นอย่างดี ความน่าสนใจของต้นไม้ต้นนี้จะมีอะไรบ้างเราเตรียมข้อมูลที่คุณไม่ควรพลาดมาไว้ให้คุณที่นี่เรียบร้อยแล้ว

เฟิร์นดาบออสเตรเลียมีความน่าสนใจอย่างไร

สำหรับเฟิร์นดาบออสเตรเลียนั้นเป็นต้นไม้ที่สามารถวางไว้เพื่อเป็นต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนหรือต้นไม้ฟอกอากาศภูมิแพ้ก็ได้ตามที่คุณต้องการ แต่ทั้งหมดมีเป้าหมายเดียวกันคือมอบอากาศดี ๆ ให้กับพื้นที่และคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น

            ส่วนข้อมูลของต้นไม้ต้นนี้ถ้าเป็นในภาษาอังกฤษก็มักจะเรียกกันว่า KIMBERLY QUEEN FERN นั่นเอง เพราะมาพร้อมกับจุดเด่นทั้งก้านและใบที่ดูใหญ่สง่างาม ความยาวของก้านและใบจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งเมตร ถ้าคุณจะสังเกตว่าต้นไม้ต้นนี้คือเฟิร์นชนิดนี้หรือไม่ให้สังเกตว่ามีก้านยาวออกมาเป็นแฉก และมีใบที่ไล่ระดับจากก้านมาจนถึงยอด ซึ่งแน่นอนว่าต้นกำเนิดของต้นไม้ชนิดนี้อยู่ที่ประเทศออสเตรเลียตามชื่อของมันนั่นเอง

เฟิร์นดาบออสเตรเลีย ต้องดูแลแบบไหน

ก่อนที่จะตัดสินใจว่าคุณจะเลี้ยงเฟิร์นดาบออสเตรเลียหรือไม่ก็คงจะต้องมาดูวิธีการดูแลกันก่อนว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณกันไหม โดยการดูแลต้นไม้ฟอกอากาศภูมิแพ้ต้นนี้ไม่ได้ยาก แต่ต้องเน้นความใส่ใจ โดยดินที่ใช้ปลูกจะต้องเป็นดินร่วนหรือออกไปทางเหนียวเพื่อที่จะอุ้มน้ำให้ดี เพราะต้นไม้ชนิดนี้ชอบความชื้นและแฉะ

            นอกจากนี้คุณยังต้องใส่ปุ๋ยที่เป็นปุ๋ยคอกประมาณสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เมื่อเลี้ยงมาจนมีอายุได้ประมาณสามสัปดาห์ค่อยเปลี่ยนการใส่ปุ๋ยเป็นสัปดาห์เว้นสัปดาห์ แต่ที่แน่ ๆ คุณจะต้องหมั่นรดน้ำทั้งเช้าเย็น แต่อย่ารดในแต่ละครั้งให้มากจนเกินไป เพราะอาจจะส่งผลให้รากเน่า และที่สำคัญต้นไม้ต้นนี้ไม่ชอบแสงคุณเอาไปไว้ในมุมที่ไม่ต้องเจอแสงเยอะกันได้เลย

ราคาของต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านอย่างเฟิร์นดาบออสเตรเลียแพงหรือไม่

ถ้าคุณยินดีที่จะเริ่มเลี้ยงเฟิร์นดาบออสเตรเลียตั้งแต่เมื่อเริ่มต้นราคาของต้นไม้ต้นนี้ก็อยู่ในหลักร้อยที่ประมาณ 250 บาทที่คุณสามารถเอื้อมถึงได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นคุณก็เพียงแค่ใส่ปุ๋ยรดน้ำและใส่ใจรับรองได้เลยว่าต้นไม้ต้นนี้จะเจริญงอกงามจนคุณรู้สึกมีความสุขที่ได้เลี้ยงดูอย่างแน่นอน แต่อย่าลืมตรวจสอบการเปลี่ยนกระถางกันให้ดี เพราะไม่อย่างนั้นเมื่อเลี้ยงมาจนถึงในระดับหนึ่งอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้

            ขอแนะนำเลยว่ากิจกรรมปลูกต้นไม้มีส่วนช่วยทำให้คุณคลายความเครียดเพิ่มสมาธิและยังทำให้อากาศในพื้นที่ของคุณมีความบริสุทธิ์เพิ่มมากขึ้นถ้าตอนนี้คุณกำลังมองหาต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน

หรือต้นไม้ฟอกอากาศภูมิแพ้อยู่ล่ะก็เราขอแนะนำเลยว่าไม่ควรพลาดการซื้อเฟิร์นดาบออสเตรเลียไปไว้ในครอบครอง

ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านสไตล์ MINIMAL กับต้นฟิโลหูช้าง

ต้นไม้กลายมาเป็นหนึ่งไอเทมสำคัญในการสร้างสรรค์พื้นที่มินิมอลและต้นไม้ในประเภทของต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านกลายมาเป็นตัวเลือกสำคัญ เราเลยอยากแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ ฟิโลหูช้าง หนึ่งในต้นไม้ที่จัดอยู่ในประเภทฟอกอากาศที่กำลังได้รับความนิยม ที่มาที่ไป การเลี้ยงดู และราคาของต้นไม้ต้นนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง วันนี้เรามาทำความรู้จักให้มากขึ้นไปพร้อมกันเลยดีกว่า

การตกแต่งบ้านและห้องส่วนตัวในสไตล์ที่เรียกกันว่ามินิมอลดูเหมือนจะเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายชิ้นมีเพียงไม่กี่ชิ้นที่ดูแล้วเข้ากับสไตล์ก็สามารถที่จะทำให้พื้นที่ของคุณน่าสนใจได้แล้ว

มารู้จักกับฟิโลหูช้างให้มากขึ้น

สำหรับชื่ออื่น ๆ ของฟิโลหูช้างก็คือ ฟิโลเดนดรอน และ ไจแอนเตียม นั่นเอง โดยต้นไม้ต้นนี้จัดอยู่ในประเภทของ ARACEAE หลายคนนิยมปลูกกันตั้งแต่ยังเป็นเมล็ดฟิโลหูช้าง แต่ถ้าคุณยังไม่ถนัดสามารถที่จะมาดูว่าฟิโลหูช้างมีกี่แบบแล้วเลือกนำแบบที่ชอบไปเลี้ยงกันได้

            สำหรับต้นไม้ต้นนี้เรียกกันว่าเป็นประเภทของต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านที่เป็นไม้อิงอาศัย มักจะมีอายุยืนนานหลายปี แต่มีลำต้นที่ไม่ใหญ่มาก และมีรากอากาศ ลักษณะของใบจะเป็นใบเดี่ยวมีรูปคล้ายกับหัวใจ  ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของต้นไม้ต้นนี้เลยก็ว่าได้ ที่สำคัญต้นไม้ต้นนี้ยังสามารถออกดอกเป็นช่อให้คุณได้ชื่นใจกันอีกด้วย แต่ถ้าคุณคิดจะเลี้ยงก็บอกเลยว่ามีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาและความอดทนเพื่อเฝ้ามองการเติบโตกันไปเรื่อย ๆ

การดูแล ฟิโลหูช้าง ควรทำอย่างไร

อย่างที่เราได้บอกกันไปแล้วว่าฟิโลหูช้างมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับปานกลาง ดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ เพราะกว่าจะเติบโตไปในแต่ละขั้นจำเป็นที่จะต้องอาศัยดินร่วนในการระบายน้ำที่ดี และต้องการเจอแดดแบบรำไรไม่ใช่แดดจัด ๆ นอกจากนี้คุณยังจะต้องให้น้ำในระดับปานกลาง คอยระวังไม่ให้ชุ่มหรือแฉะจนเกินไป เพราะอาจจะส่งผลให้รากเน่าและทำให้ต้นไม้ตายได้

            โดยถ้าคุณต้องการที่จะขยายพันธุ์ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านต้นนี้ด้วยตัวเองเราขอแนะนำให้คุณเพาะเมล็ด ปักชำยอด หรือว่าตอนกิ่งตามที่คุณถนัด เมื่อคุณทำให้ต้นไม้ต้นนี้เติบโตได้เรียบร้อยแล้วยังสามารถที่จะนำไปใส่กระถางต่าง ๆ เพื่อตกแต่งมุมประดับสวน และยังเป็นไม้ตัดใบไปใช้งานกันได้อีกด้วย

ราคาที่ต้องเตรียมไปถอยฟิโลหูช้างมาครอง

โดยถ้าจะถามว่าฟิโลหูช้างราคาเท่าไรก็บอกเลยว่าฟิโลหูช้างเริ่มที่ประมาณ 150 บาท โดยถือว่าเป็นความคุ้มค่าถ้าคุณสามารถเลี้ยงให้ต้นไม้แตกใบเติบโตได้ เพราะคุณสามารถที่จะตัดใบมาใส่แจกันตกแต่งมุมต่าง ๆ ของบ้านได้และยังเป็นการฟอกอากาศได้หลายมุมมากขึ้นอีกด้วย

ใครที่กำลังสนใจอยากจะซื้อฟิโลหูช้างมาเลี้ยงแล้วล่ะก็บอกเลยว่าไม่ต้องรอช้า เพราะนี่เป็นต้นไม้ที่เลี้ยงได้ง่าย และทำให้พื้นที่ของคุณมีสไตล์เป็นของตัวเองเพิ่มมากยิ่งขึ้น ว่าง ๆ ลองตัดใบของต้นไม้ต้นนี้ไปฝากเพื่อน ๆ ก็อาจทำให้ได้สาวกตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้สไตล์มินิมอลเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง

ไพเลีย ต้นไม้ฟอกอากาศ แตกหน่อเก่ง ดูแลง่าย ทนแล้งได้ดี

ไพเลีย( Pilea  Peperomioides ) มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาแถบมณฑลยูนาน ต่อมามีการขยายกระจายพันธุ์ไปสู่ประเทศนอร์เวย์และประเทศอื่นๆ รวมถึงในประเทศไทยด้วย

หลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกันกับต้นใบบัวบก ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นคนละชนิดกัน โดยเจ้าต้นนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ต้นเหรียญเงินหรือต้นแพนเค้ก จัดเป็นไม้มงคลนามที่คนนิยมนำไปประดับตกแต่งบ้านและสวนเพื่อให้เกิดความสวยงามร่มรื่น ไม่มีสรรพคุณทางยาเหมือนต้นใบบัวบกแต่อย่างใด มักปลูกไว้เป็นไม้ประดับและเพื่อเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ดังนี้

ลำต้น – ต้นเหรียญเงินมีลำต้นตั้งตรง ผิวสีน้ำตาล แตกกิ่งก้านใบกระจายออกไปรอบต้น  ก้านใบมีลักษณะเป็นเส้นตั้งตรง รูปทรงกลม ผิวเกลี้ยง มีสีเขียว ซึ่งต่างจากใบบัวบกชัดเจนเพราะใบบัวบกมีลำต้นที่อ่อนกว่ามาก มักจะทอดตัวเลื้อยยาวไปตามพื้น

ใบ – รูปทรงกลม ใบมีสีเขียวผิวเรียบมันวาวซึ่งมีความคล้ายๆกับใบบัวบก ด้วยความที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดน่ารักจึงนิยมนำไปปลูกเป็นไม้กระถางเอาไว้ประดับบ้าน โต๊ะทำงาน โต๊ะรับแขก ฯลฯ

วิธีดูแลต้นไพเลีย

ต้นไพเลีย หรือต้นเหรียญเงิน จัดว่าเป็นต้นไม้มงคลที่ดูแลง่ายมาก เลี้ยงง่าย อยู่ง่าย โตไว  แถมยังเจริญเติบโตได้ดีแตกหน่อได้เยอะ ทนแล้ว ทนร้อนได้ดี คนไม่ค่อยมีเวลาก็ปลูกได้ ซึ่งผู้ปลูกจะต้องดูแลต้นเหรียญเงินในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

         ดิน – ชอบดินร่วนหรือวัสดุปลูกที่สามารถระบายน้ำได้ดี  ในขั้นตอนการเตรียมดินควรนำแกลบ ขุยมะพร้าวแห้ง ถ่านทุบหยาบ ๆ  ใบไม้แห้ง ปุ๋ยคอก  ฯลฯ  นำไปคลุกเคล้าผสมกันกับดินที่เตรียมไว้ในอัตรา 1 ต่อ 1 นำไปตากแดดไว้เป็นเวลา 1 วัน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเชื้อราในดิน จากนั้นจึงนำมาลงกระถางและเตรียมปลูกในขั้นตอนต่อไป 

น้ำ – เป็นต้นไม้ที่สามารถทนแล้งได้ดี ไม่ชอบที่ชื้นแฉะมีน้ำขัง ควรรดน้ำ 2-3 วันต่อ 1 ครั้ง

         แสงแดด –  เป็นไม้ประดับที่ไม่ชอบโดนแดดแรง ๆ ไม่ควรวางในจุดที่ต้องโดนแสงแดดโดยตรง ควรจัดวางในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงรำไร เช่น บริเวณริมระเบียง  ริมหน้าต่าง  ฯลฯ  หากจำเป็นที่จะต้องปลูกด้านนอกอาคาร แนะนำให้ปลูกไว้ใต้ต้นไม้หรือหาแสลนมากางกันแดด 

ปุ๋ยบำรุงดิน – สามารถเพิ่มปุ๋ยเพื่อบำรุงดินได้โดยการใช้ปุ๋ยออสโมโคทในการบำรุง  แนะนำให้โรยปุ๋ยในบริเวณรอบโคนต้น จากนั้นจึงรดน้ำตามให้ชุ่มพอประมาณเพื่อเป็นการช่วยกระจายปุ๋ยให้ซึมลงในดินได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง

ราคาทั่วไปของต้น ไพเลีย

แม้ว่าต้นไพเลียจะยังไม่ค่อยเป็นกระแสมากเท่ากับกลุ่มไม้วงศ์บอน แต่เมื่อมาดูราคาซื้อขายในท้องตลาดแล้วต้นไพเลีย ราคาจะสูงหน่อย ๆ ค่ะ เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้นำเข้าที่ในบ้านเรายังมีไม่เยอะสัก ซึ่งถ้าขนาดต้นประมาณ 3-7 นิ้ว ต้นไพเลีย ราคารวมกระถางและจานรอง รวมค่าส่งแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,300 บาท ทั้งนี้ราคาอาจจะมีสูง-ต่ำกว่าที่บอกไว้เนื่องจากราคาที่ซื้อขายขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาด ความแข็งแรง ความพึงพอใจของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย กระแสความนิยมในช่วงนั้น ๆ  ฯลฯ

ต้นพลูปีกนก หรือ มอนสเตอร่า ‘ คาร์สตีเนียมนัม ‘ ต้นไม้สายมอนสเตอร่า ไม้น่าปลูกสำหรับชาวสายเขียว

พลูปีกนก หรือ มอนสเตอร่า ‘ คาร์สตีเนียมนัม ‘ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Monstera sp. ‘ Karstenianum ’ เป็นพันธุ์ไม้ที่อยู่ในวงศ์ ARACEAE  มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเวเนซุเอลาและรู้จักกันแพร่หลายในชื่อ Monstera Karstenianum (ชื่อไม่เป็นทางการ) ตลาดต่างประเทศจะรู้จักกันในชื่อ Monstera spp. ‘ Peru ’ มีทั้งสายพันธุ์ทั่วไปและสายพันธุ์ด่าง

มีลักษณะเป็นไม้เลื้อยมีอายุอยู่ได้หลายปี ลำต้นมีรูปทรงกระบอก ต้นค่อนข้างเล็ก ลำต้นมีลักษณะเป็นข้อปล้อง มีรากอากาศงอกออกมาตามข้อปล้องนั้น  สามารถเลื้อยเกาะเกี่ยวตามไม้ค้ำยันหรือสิ่งที่อยู่ใกล้เคียงได้  ใบมีลักษณะเป็นรูปทรงรี  ออกใบเดี่ยว  ช่วงโคนใบสอบ-ปลายใบแหลม  ขอบใบเรียบ  ผิวใบย่น  สามารถมองเห็นเส้นใบได้ชัดเจน  แผ่นใบค่อนข้างหนา  มีสีเขียวอมเหลือง ผิวใบเป็นมันเงา มีดอกย่อยขนาดเล็กออกกระจุกกันเป็นช่อแบบช่อเชิงลดและมีกาบหุ้ม ไม่มีก้านดอก นิยมปลูกใส่กระถางเป็นไม้ประดับใช้ตกแต่งบ้านหรือปล่อยให้เลื้อยขึ้นตามโครงไม้-หลักค้ำยัน ตามรูปทรงที่กำหนด สวยงามและให้ความร่มรื่นดีมาก นอกจากสวยแล้วก็ยังเป็น ต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ และดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ด้วย

วิธีดูแล ต้นพลูปีกนก ให้เจริญเติบโตและมีใบสวยโดดเด่น

ดิน – ต้นพลูปีกนกหรือ พลูปีกนกด่าง สามารถเจริญเติบโตได้ดีในวัสดุปลูกที่ระบายน้ำได้ดีชอบความชุ่มชื้นแต่ไม่ชอบความชื้นแฉะและไม่ชอบให้มีน้ำขัง

น้ำ – เป็นไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นระดับปานกลางถึงมาก จึงควรหมั่นดูแลใส่ใจให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ โดยควรรดน้ำ 1 – 2 ครั้ง ต่อวัน ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรรดน้ำทีละมาก ๆ จนเกิดมีน้ำขังเพราะอาจจะทำให้เกิดเชื้อราหรือเกิดรากเน่าขึ้นได้ง่าย ควรใช้วิธีรดในปริมาณที่เหมาะสมแต่รดบ่อย ๆ จะดีกว่าค่ะ

แสงแดด – เป็นพืชที่ปลูกในที่ร่มได้ ชอบแสงแดดรำไร ไม่ควรปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดจัดหรือบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน เพราะจะทำให้ใบแห้งและเฉาตายได้ง่าย

ปุ๋ย – ใช้ได้ทั้งปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมี โดยการให้ปุ๋ย เดือนละครั้ง

วิธีการขยายพันธุ์ – วิธีการขยายพันธุ์ทำโดยวิธีการปักชำลำต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายและโอกาสในการรอดสูง ในส่วนของ พลูปีกนกด่าง ความด่างของใบจะยังคงมีอยู่แต่ความด่างจะมากหรือน้อย รวมถึงลวดลายด่างของใบจะเกิดมีขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับวิธีการขยายพันธุ์แต่อย่างใดค่ะ

พลูปีกนก ราคาเท่าไหร่?

ต้นพลูปีกนก เป็นพันธุ์ไม้ปลูกง่ายในตระกูลมอนสเตอร่า ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย ใบสวยเด่น เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ของมอนสเตอร่าที่คนให้ความสนใจและนิยมกันมาก ยิ่งถ้าได้นำมาปลูกรวมกันเป็นพุ่มหนาด้วยแล้วก็จะยิ่งมีความสวยงาม ในวันที่ต้องจ้องคอมพิวเตอร์ นาน ๆ หากมองทอดสายตาออกไปเจอสีเขียวชอุ่มคงจะสบายตาทำให้บ้านน่าอยู่ น่าพักผ่อนมากยิ่งขึ้น

            พลูปีกนกราคา จัดว่าไม่สูงเหมือนสายพันธุ์อื่น โดย พลูปีกนกราคา ทั่วไปจะอยู่ที่หลักร้อยเท่านั้น เป็น ต้นไม้ฟอกอากาศ ที่มีราคาเบาสบายกระเป๋ามาก ๆ อีกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว  หากต้องการหาสีเขียวเข้าบ้านแล้วล่ะก็ ขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะสวยโดดเด่นไม่แพ้ใคร แต่ราคาสบายกระเป๋าน่ารักมาก ๆ ค่ะ

ต้นพลูนางฟ้าหรือนางฟ้าจะแลง พันธุ์ไม้ลายสวย ไม้ประดับปลูกง่ายคนพื้นที่น้อยก็ปลูกได้

พลูนางฟ้า  ( Rex Begonia Vine ) หรือ นางฟ้าจําแลงและ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกกันว่า Cissus discolor Blume เป็นพันธุ์ไม้ในวงศ์ VITACEAE เป็นพืชวงเดียวกันกับองุ่น โดยชื่อนางฟ้าจำแลงนั้น ผู้ที่ตั้งชื่อคือหม่อมหลวงบัว  สนิทวงศ์  เนื่องจากเมื่อเริ่มแก่ใบจะเปลี่ยนสีจากสีแดงเหลือบเงินกลายเป็นสีเขียว เป็นพืชที่มีลักษณะเป็นไม้เลื้อยมีอายุยืนอยู่ได้หลายปี นิยมปลูกเป็นไม้ประดับและมีคุณสมบัติเป็น ต้นไม้ฟอกอากาศ ช่วยกำจัดสารพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ล่องลอยอยู่ในอากาศได้

ลำต้นมีลักษณะเป็นเถาไม้เลื้อย  ตามซอกใบมีกิ่งลักษณะเป็นเส้นยาวม้วนงอคล้ายกับมือ  ลำต้นและกิ่งมีสีม่วงอมแดง  ใบจะมีลักษณะเป็นใบเดี่ยวรูปทรงคล้ายรูปหัวใจ ออกเรียงสลับกัน  โคนใบหยัก  ปลายใบเรียวแหลม  ขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย  พื้นใบมีสีเขียวเข้มและมีเส้นใบสีเทาอมเขียวเข้มตัดเป็นลวดลาย  หลังใบมีสีม่วงแดง  แผ่นใบค่อนข้างที่จะบางมาก  ออกดอกเป็นช่ออยู่ตามซอกใบ  มีดอกย่อยขนาดเล็กสีขาวอมเหลืองอ่อน ผลมีลักษณะเป็นทรงกลม ผลดิบมีสีเขียว เมื่อสุกจะกลายเป็นสีม่วงเข้ม

วิธีดูแล ต้นพลูนางฟ้า ให้เจริญเติบโตมีใบดกและมีลวดลายสวย

ดิน – ควรเลือกปลูก ต้นพลูนางฟ้า ในดินร่วนโปร่งหรือเลือกวัสดุปลูกที่มีลักษณะร่วนโปร่ง เช่น ดินร่วนผสมกาบมะพร้าวสับ ใบไม้แห้ง แกลบ ถ่านทุบหยาบ ฯลฯ

น้ำ – ควรรดน้ำ 1-2 วันต่อครั้ง นางฟ้าจำแลงเป็นพืชที่มีลำต้นเป็นไม้เลื้อยลักษณะใบค่อนข้างบางดังนั้นส่วนใบแห้งกรอบได้ง่าย ผู้ปลูกควรรักษาความชุ่มชื้นในดินอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเห็นว่าใบเริ่มเฉา ไม่สดชื่น และดินแห้งจนเกินไป ให้รดน้ำเพิ่มเติมได้ในทันที

แสงแดด – เป็นพันธุ์ไม้เลื้อยที่ชอบและเจริญเติบโตในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร ไม่เหมาะที่จะปลูกในบริเวณกลางแจ้งที่มีแสงแดดจัด บ่อยครั้งที่มีผู้ปลูกตามแนวริมรั้วแต่ก็เฉาตายไปในที่สุดเนื่องจากเป็นบริเวณที่เจอแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน  ดังนั้นถ้าอยากให้ต้นไม้ชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีแนะนำให้ปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดรำไรหรือมีแสงแดดส่องถึงในช่วงเช้าของวัน  หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แนะนำให้ปลูกในบริเวณที่มีชายคากันแดด มีสแลนกันแดด หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ที่สามารถกำบังแสงแดดให้ได้อย่างน้อย50% ขึ้นไป

ปุ๋ย – แนะนำให้ใช้ปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงดิน จะช่วยให้มีสภาพดินดีตามธรรมชาติช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี โดยควรให้ปุ๋ย 1-2 เดือนต่อครั้ง ทั้งนี้ผู้ปลูกควรพิจารณาจากสภาพของดินที่นำไปปลูกเป็นหลัก

วิธีขยายพันธุ์พลูนางฟ้า สามารถทำได้โดยการปักชำกิ่ง โดยให้ตัดเป็นข้อแต่ละข้อให้มีใบติดอยู่อย่างน้อย 2-3 ใบ แล้วนำไปปักชำในขุยมะพร้าวที่ชุบน้ำให้ชุ่มเรียบร้อยแล้ว นำเชือกฟางมามัดปิดให้เรียบร้อย รอประมาณ 7-10 วัน จะเริ่มมีรากงอกออกมาบาง ๆ สามารถนำไปปลูกต่อได้

ราคาทั่วไปของ พลูนางฟ้า

พลูนางฟ้า เป็นพืชที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเนื่องจากมีสีสันลวดลายใบที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ลวดลายใบสีเขียว ขาว ตัดกันสวยงามเด่นชัดและมีแซมสีม่วงนิด ๆ  ช่วยให้สีสันไม่จืดชืดจนเกินไป รูปทรงใบสวยงามคล้ายรูปหัวใจหรือใบโพธิ์  เมื่อปลูกรวมกันหลายๆต้นจึงทำให้เกิดเป็นพุ่มสวยช่วยให้ผ่อนคลายและมีความร่มรื่น พลูปีกนางฟ้า ราคาโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ  200 – 1,500 บาท เช่น ถ้ามีขนาด 5 นิ้วพลูปีกนางฟ้า ราคา 300 บาท ( รวมค่าส่ง ) , ขนาด 8 นิ้ว ราคา 550 บาท ( รวมค่าส่ง )  ฯลฯ

ฟิโลเดนดรอน ก้านส้มด่าง ไม้ประดับฟอกอากาศใบด่างสร้างความโดดเด่น

ฟิโลเดนดรอน ก้านส้มด่าง ( Philodendron ) หรือ ฟิโลก้านส้มด่าง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Philodendron Billietiae Croat จัดอยู่ในวงศ์ ARACEAE  มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบประเทศอเมริกาใต้ บราซิล

            ฟิโลก้านส้มด่าง มีลักษณะเป็นไม้อิงอาศัย ลำต้นมีรากอากาศ ส่วนใบมีรูปทรงคล้ายหอก ช่วงปลายใบเรียวแหลม-โคนใบเว้าลึก ขอบใบเป็นคลื่น ใบมีพื้นสีเขียวด่างเหลือง ผิวเรียบเป็นมันเงา ก้านใบสีส้มทอมเหลืองทรงกระบอก ออกดอกเป็นช่อเชิงลด มีกาบหุ้ม นิยมนำมาปลูกเป็นไม้กระถางประดับในตัวอาคารหรือปลูกประดับในสวนเพื่อความสวยงาม ร่มรื่น นอกจากนี้ยังเป็น ต้นไม้ฟอกอากาศ สามารถช่วยกำจัดสารพิษในอากาศ และช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ล่องลอยอยู่ในอากาศทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น

วิธีดูแล ฟิโลเดนดรอน ก้านส้มด่าง

ฟิโลก้านส้มด่าง วิธีปลูก มีขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก หากต้องการปลูกลงกระถาง ควรเริ่มจากการเลือกกระถางที่จะใช้ให้เหมาะสม  แนะนำให้เลือกกระถางที่ทำด้วยดินเผาเพราะจะช่วยให้อุณหภูมิของดินในกระถางเย็นลง และควรเลือกกระถางแบบที่มีรูระบายน้ำตรงก้นกระถางเพื่อให้ดินไม่ชื้นแฉะจนเกินไป ขั้นตอนต่อไป คือ เลือกปลูกในดินร่วนที่สามารถระบายน้ำได้ดีหรือวัสดุปลูกที่มีความโปร่งชื้น ผู้ปลูกควรรักษาระดับความชุ่มชื้นในดินให้สม่ำเสมอ โดยควรรดน้ำวันละ 1-2 วัน ฟิโลก้านส้มด่างไม่ชอบแสงแดดจัด ควรนำไปปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงรำไร หรือ ส่องถึงได้ในช่วงครึ่งวันเช้า สามารถปลูกในห้องได้แต่ควรเป็นห้องกระจกที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก จะทำให้ใบและต้นมีสีสวยและแข็งแรงแนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ใส่บำรุงเดือนละ 1 ครั้ง การขยายพันธุ์ ฟิโลเดนดรอนก้านส้มด่าง นิยมทำโดยวิธีการเพาะเมล็ด การตอน และการปักชำยอด  ส่วนการขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเนื้อเยื่อที่นั้น ฟิโลก้านส้มเพาะเนื้อเยื่อได้เช่นเดียวกันเพียงแต่ไม่ค่อยนิยมกันสักเท่าไหร่นัก เพราะการเพาะเนื้อเยื่อก็ไม่สามารถการันตีว่าจะได้ฟิโลก้านส้มด่างที่มีความด่าง100 %  เนื่องจากหากไม่ใช่เป็นความด่างที่เป็นยีนเด่นแล้ว ความด่างนั้นก็จัดมามีความยากลำบากให้การเพาะพันธุ์อยู่มาก

ราคาซื้อ-ขายของฟิโลเดนดรอนก้านส้มด่าง

ฟิโลเดนดรอนก้านส้มด่าง เป็นพันธุ์ไม้ที่ได้รับความนิยมมากอีกสายพันธุ์หนึ่ง เนื่องจากมีใบด่างที่สวยงามโดดเด่นแปลกตา เป็นไม้ใบฟอร์มใบสวยงาม มีใบขนาดใหญ่ มีจำหน่ายตามร้านต้นไม้ทั่วไป  ซึ่ง ฟิโลก้านส้มด่าง ราคา ต้นพันธุ์โดยเฉลี่ยจะเริ่มต้นที่ 200 บาท ขึ้นไป ถ้าเป็นต้นที่เจริญเติบโต แข็งแรง และมีฟอร์มสวยงาม ฟิโลก้านส้มด่าง ราคา ก็จะไต่ระดับเพิ่มขึ้นเป็นหลักหลายหมื่นเลยทีเดียวค่ะ

พลูฉลุ ไม้ใบกระแสแรง ต้นไม้ฟอกอากาศ ต้นไม้มงคลยอดนิยม

พลูฉลุ  ( Window-leaf ) พืชในตระกูลพลูด่าง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Monstera  obliqua  ( Miq.) Walp. ‘ Expilata ’ จัดอยู่ในวงศ์ Araceae  เป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อนมีอายุอยู่ได้หลายปี นิยมนำมาตกแต่งบ้าน บริเวณริมระเบียง บนโต๊ะทำงาน โต๊ะรับแขก และสถานที่ต่าง ๆ 

            ลำต้นมีรูปทรงกลมสีเขียว มีข้อปล้องตลอดลำต้น มีรากพิเศษงอกออกมาตามข้อและจะเลื้อยพันไปตามไม้ค้ำยันหรือวัตถุใกล้เคียง ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ขึ้นเรียงสลับกันไปมา ช่วงตรงโคนใบมีรูปทรงมน   ส่วนปลายใบมีรูปทรงเรียวแหลม มีสีเขียวเข้ม แผ่นใบมีรูเว้าขนาดเล็ก-ใหญ่สลับปะปนกันเหมือนลายฉลุเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อันเป็นที่มาของชื่อ “ ต้นพลูฉลุ ”  นั่นเอง มักออกดอกเป็นแบบช่อเชิงลดบริเวณช่วงตรงปลายกิ่ง ช่อดอกสีขาวค่อนข้างยาว มีกาบหุ้ม 

            เป็นไม้มงคลที่นิยมนำมาปลูกเอาไว้ในบ้าน โดยมีความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณว่าสามารถช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล มีแต่คนรักคนหลงคน เมตตาเอ็นดู ช่วยให้อยู่เย็นเป็นสุข ช่วยให้ผู้ปลูกและผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านนั้นรักใคร่กลมเกลียวกัน ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง เจรจาพาทีกับใครก็เป็นที่เอ็นดูรักใคร่เมตตา ให้ความช่วยเหลือทุกประการ  นอกจากนี้ก็ยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศช่วยดูดซับสารพิษในอากาศ ทำให้อากาศสะอาดบริสุทธิ์ สามารถปลูกโดยการแช่น้ำในแจกัน การปลูกลงกระถาง  ทั้งกระถางแบบตั้งและกระถางแบบแขวน

วิธีดูแล ต้นพลูฉลุ ให้ใบดกมีสีสวยชัด

วิธีดูแลพลูฉลุมีเคล็ดลับง่าย ๆ คนที่เพิ่งเริ่มหัดปลูกต้นไม้หรือไม่มีเวลาดูแลก็ปลูกให้สวยได้ไม่ยาก ดังนี้

            ดิน – ควรปลูก ต้นพลูฉลุ ในดินร่วนผสมกับทรายหยาบและปุ๋ยคอกให้ผสมรวมกัน  หรือนำอินทรียวัตถุมาผสมกับดิน  จะทำให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตที่ดีและรวดเร็ว

            น้ำ – เป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูง  ควรรดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอโดยการรดจากปลายยอดปล่อยให้น้ำไหลลงมาที่ปากกระถาง  อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง  ทั้งนี้จะดูจากสภาพดินและอากาศเป็นหลัก

           

แสงแดด – วิธีดูแลพลูฉลุให้ใบสวยสีสดจึงควรปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงรำไร เช่น ริมระเบียง ริมหน้าต่าง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงได้ในช่วงเช้า รับแสงแดดในช่วงเช้า แสงแดดที่พอเหมาะจะทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตเร็ว แข็งแรง มีใบสีสันสวยงาม

            ปุ๋ย – ใช้ได้ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยคอก แนะนำให้ใช้สูตร 16-8-8  ในปริมาณ 10-20 เม็ดต่อน้ำ 1 ลิตร 2-3 เดือน ต่อครั้ง ตามด้วยการรดน้ำให้ชุ่มเพื่อช่วยกระจายปุ๋ยลงดิน

ราคา ต้นพลูฉลุ ตามท้องตลาดทั่วไป

นอกจากนำมาปลูกตกแต่งบ้านเพื่อเพิ่มความสวยงาม ร่มรื่น และสบายตาแล้ว  ต้นพลูฉลุ ยังช่วยฟอกอากาศ ดูดซับสารพิษ ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างฝุ่น PM2.5ได้ ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ ส่งผลให้มีสุขภาพกายที่ดีและสุขภาพจิตที่ร่าเริงแจ่มใส  พลูฉลุราคา มีหลายราคาขึ้นอยู่กับความสวยงามดดเด่นของลวดลาย ความแข็งแรง และขนาดของต้น ซึ่ง พลูฉลุราคา เริ่มต้นจะมีตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป

รู้จักกับ ต้นยางอินเดีย ต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอน กับประโยชน์ที่ไม่ใช่เพียงแค่ฟอกอากาศ!!

สำหรับมลภาวะอากาศอย่าง P.M 2.5 ที่กำลังรบกวนคนเมืองอยู่นั่น ทำให้การเดินทางหรือใช้ชีวิตอย่างข้างนอกมีความยากลำบาก หลาย ๆ คนอาจมองหาเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านแต่สำหรับคนที่งบน้อย เพียงหันมาปลูกต้นไม้ก็ช่วยให้อากาศภาพในบ้านบริสุทธิ์ได้แล้ว สำหรับต้นไม้ฟอกอากาศที่ยอดฮิตนั่นก็คือ ‘ต้นยางอินเดีย’ หรือจะเรียกอีกชื่อว่าต้นยางลบ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มหรือไม้เลื่อย ลำต้นสูงได้มากกว่า 30 เมตร ตัวใบจะเป็นใบเดี่ยวหนาจะมีรูปร่างเป็นวงรีปลายแหลม มีทั้งสีเขียวอ่อนไปยังสีเขียวเข้มดำ บางชนิดเป็นใบด่าง มีดอกและออกผลมีเนื้อรูปร่างกลมรีเช่นเดียวกัน ถ้าสุกแล้วจะมีสีเหลือง

ต้นยางอินเดีย สรรพคุณมากมายควรค่าแก่การปลูก!!

ต้นยางอินเดียปลูกในห้อง สำนักงาน หรือภายในตัวบ้านมี นั่นดีแน่นอน เพราะมีสรรพคุณที่โด่งดังนั่นก็คือการฟอกอากาศ สามารถดูดซับสารพิษพวกฟอร์มัลดีไฮด์และสารพิษที่ทำให้ก่อเกิดมะเร็ง ให้ความชื้นในอากาศได้ดี ต้นยางอินเดีย ยังเป็นที่นิยมในการนำไปตกแต่งพวงหรีดสำหรับงานศพ และนอกจากนี้ต้นยางอินเดียยังถูกนำไปผลิตแปรรูปเป็นยางลบดินสอจึงได้ชื่อว่าต้นยางลบนั่นเอง

วิธีดูแลรักษาง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ซื้อปลูกได้เพราะราคาถูกสุดไรสุดขอบอก!!

สำหรับการดูแลรักษา ต้นยางอินเดียวิธีดูแล นั่นบอกได้เลยว่าง่ายมาก เพียงมี 3 ตัวแปรสำคัญ คือ ดินที่มีลักษณะโปร่ง หรือดินร่วนซุย สามารถระบายน้ำได้ดี ไม่ขังน้ำเพราะอาจจะทำให้รากเน่าได้ ส่วนที่สองคือ แสงแดด สามารถไว้ในที่แดดจัด ๆ ได้เลยเพราะต้นยางอินเดียเป็นต้นไม้ที่ชอบแดดมาก ๆ และสุดท้ายคือการรดน้ำ ต้นยางอินเดียมีความชื้นภายในต้นสูงมาก ดังนั้น ควรรดน้ำเพียง 3 วันครั้งก็เพียงพอแล้ว หรือคอยดูว่าดินมีความชื้นมากน้อยแค่ไหน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 150 บาทขึ้นไป

ต้นยางอินเดียปลูกในบ้าน สำนักงาน ในอาคารก็ดี และยังสามารถปลูกกลางแจ้งเป็นไม้ร่มเหงาได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นสรรพคุณมากมายเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศในห้องนอนที่ควรค่าแก่การปลูก ทั้งวิธีการดูแลรักษาที่ง่ายเหมาะสำหรับคนไม่มีเวลามาก ๆ