Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

หูกระจงแดง พันธุ์ไม้ ดอกสีแดงสดใสท้าทายแสงแดด

หูกระจงแดง อีกหนึ่งพันธุ์ไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ทนทาน ตายไม่ยาก ยิ่งในช่วงหลัง ๆ มานี้ที่มีผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับการปลูกต้นไม้ ต้นหูกระจงพันธุ์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้ทุกคนที่กำลังมองหาต้นไม้สวย ๆ แบบยืนต้นได้ประสบการณ์การปลูกต้นไม้ใหม่ ๆ ได้ และที่สำคัญ หากใครกำลังมองหาต้นไม้ยืนต้นราคาเริ่มต้นถูก ๆ สามารถอยู่กับเราไปได้ยาวนาน ก็ไม่มีเหตุผลที่คุณจะมองข้ามต้นนี้ไป ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมล่ะก็ตามเข้ามาได้เลย

“หูกระจงแดงสวยๆ” คลิกที่นี่

หูกระจงแดง ต้นไม้พันธุ์งาม ปลูกอย่างไรก็ไม่ตาย

หูกระจงแดง

หูกระจงแดง ต้นไม้หายาก ความสวยงามนับว่าเกินบรรยาย ลักษณะของเขานั้นจะเป็นต้นที่ยืนสูงประมาณ 5-10 เมตร จุดเด่นคือในส่วนของใบที่มีลักษณะเป็นใบเรียวแฉก ๆ ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่เห็นครั้งแรกจะคิดว่าเป็นใบกัญชา แต่ความแตกต่างคือสีของเขาที่เป็นสีแดงอมม่วงและจะมีสีเขียวคล้ำปน ๆ เข้าไปเล็กน้อย และอีกจุดเด่นที่อาจเป็นจุดขายซึ่งมีต้นไม้น้อยมากจะเลียนแบบได้คือ ใบของเขาจะล่วงยากมาก ถ้าเทียบกับต้นหูกระจงธรรมดาแล้วพันธุ์นั้นจะใบเล็ก ๆ และร่วงง่ายมากเลย และ หูกระจงแดง ดูแล ได้ง่ายไม่ยากเท่าไหร่ แต่ข้อเสียของเขาคือจะโตค่อนข้างช้ากว่าต้นหูกระจงทั่วไปอย่างมาก

หูกระจงแดงอึดทนอยู่นาน สารพัดประโยชน์

แน่นอนว่าความสวยงามอันโดดเด่นของเขาคือจุดขายที่สู้กับพืชพันธุ์อื่น ๆ ได้ง่ายดาย จึงเป็นผลดีมากเมื่อนำเขาไปปลูกเพื่อประดับในรั้วบ้าน แม้เมื่อโตเต็มที่เขาจะไม่ได้แผ่ใบออกจนสร้างร่มเงาได้กว้างใหญ่เท่าไม้ยืนต้นขนาดใหญ่พันธุ์อื่น ๆ แต่สีสันของเขาก็โดดเด่นสะดุดตาเมื่อไปอยู่คู่กับอาคารหรือบ้านเรือนก็จะช่วยสร้างสีสันให้ไม่น่าเบื่อและสวยงามได้ดีมาก นอกจากนี้ยังมีการนำไปทำเป็นยาเพื่อช่วยรักษาโรคติดเชื้อทางผิวหนังและโรคท้องเสียได้ด้วย

ต้นหูกระจง ข้อเสีย คือเติบโตช้าไม่ทันใจ

หูกระจงแดง

หูกระจงแดง แม้จะต้องใช้ระยะเวลานานมากเพื่อให้เขาเติบโตเต็มที่ แต่ วิธีปลูกต้นหูกระจงแดง รวมไปถึงการดูแลกลับง่ายกว่าต้นไม้พันธุ์อื่น ๆ เสียอีก เพราะสามารถปลูกได้ในดินร่วนทั่ว ๆ ไปหรือถ้ามีเพียงดินร่วนปนทรายก็สามารถปลูกได้เช่นกัน และปริมาณน้ำที่ต้องการนั้นจะอยู่ที่ 2-3 วันต่อหนึ่งครั้งเพียงเท่านั้น ซึ่งตอนเริ่มปลูกนั้นสามารถเลือกได้ว่าจะปลูกลงดินเลยหรือจะปลูกในกระถางเล็ก ๆ ก่อนก็ได้เช่นกัน และที่สำคัญเขายังชอบแดดเป็นอย่างมาก สามารถปลูกกลางแดดได้เลย
หูกระจงแดง ราคา จะขึ้นอยู่กับขนาด ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 60 บาทเท่านั้น หรือหากใครอยากได้เป็นต้นที่โตแล้วพร้อมเอาลงดินได้เลยก็มีตั้งแต่หลักพันบาทเป็นต้นไป หาซื้อได้ง่ายและไม่แพงเกินไปสำหรับความสวยงามระดับนี้

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

ดาวล้อมเดือน ไซซ์เล็กน่ารักแต่คุณภาพไม่เล็ก

กลับมาอีกครั้งกับการแนะนำต้นไม้พันธุ์ต่าง ๆ ในไทยที่กำลังเป็นกระแสฮิต ๆ ในช่วงนี้ เพราะว่าความเป็นมินิมอลและสไตล์โมเดิร์นเรียบ ๆ หรู ๆ กำลังงอกเงยในสังคมไทยเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากร้านกาแฟทั้งหลายในกรุงเทพหรือแม้แต่ต่างจังหวัดในที่ไกล ๆ ก็ยังตกแต่งได้สวยงามแบบนั้นเช่นเดียวกัน วันนี้จึงอยากมาแนะนำอีกหนึ่งต้นไม้ที่น่าสนใจพอจะเอาไปประดับให้เก๋ไก๋ได้ นั่นก็คือดาวล้อมเดือน ต้นเล็กน่ารักมาก ๆ ผู้หญิงสายหวานหรือผู้ชายแนวเกาหลีสไตล์ต้องชอบอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วก็ตามกันมาได้เลย

ดาวล้อมเดือน ต้นไม้ที่ทุกคนควรครอบครอง

ดาวล้อมเดือน

ดาวล้อมเดือน หรือในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Echinopsis calochlora K.Schum. เป็นพืชจากในตระกูลเดียวกับแคคตัสหรือที่เรียกกันว่าต้นกระบองเพชร มีต้นกำเนิดมาจากแถบแอฟริกาใต้ สามารถสังเกตความเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเขาได้จากหนามจำนวนมากที่เรียงรายเต็มทั่วลำต้น แต่จะเป็นหนามที่ค่อนข้างเล็กกว่าพันธุ์อื่น ๆ ที่เคยเห็นทั่วไป

          โดยลักษณะของดาวล้อมเดือน เขาจะเป็นพืชที่อวบน้ำ จะมีสิ่งที่เรียกว่าต้นแม่ เป็นลำต้นที่อยู่เป็นแกนกลางคอยค้ำยันให้ส่วนต่าง ๆ เติบโตขยายขึ้นโดยยึดจากแกนนี้ จึงถูกเรียกกันอย่างติดปากว่าเป็นต้นแม่ และถูกเปรียบเทียบให้เป็น เดือน ส่วนต้นเล็ก ๆ ส่วนข้าง ๆ ที่เติบโตและยึดเกาะจากแกนอันเดิมนี้จะถูกเปรียบเทียบให้เป็น ดาว ด้วยลักษณะของต้นเล็กที่อยู่ล้อมรอบต้นแม่เช่นนี้เอง จึงนำมาสู่การตั้งชื่อให้กับกระบองเพชรพันธุ์นี้ว่า ดาวล้อมเดือน

          จุดที่ดาวล้อมเดือนต่างไปจากแคคตัส พันธุ์ต่างๆ คือสีของลำต้นของเขาที่จะออกเป็นสีเขียวใบตอง เป็นสีเขียวนวล ๆ ดูสบายตา ส่วนพันธุ์อื่น ๆ นั้นจะมีสีเขียวเข้ม เขาจะมีพูย่อยออกเป็น 10 พูอยู่ด้านบน โดยบริเวณนั้นจะมีหนามงอกออกมาเป็นแนวยาว เป็นหนามสีเหลืองอ่อน ๆ และจะมีเป็นตุ่มเล็ก ๆ อยู่ที่หนาม ซึ่งจุดนี้จะเป็นที่ที่ให้ดอกแคคตัสของเขาได้งอกออกมา กระบองเพชร ดาวล้อมเดือนจะมีดอกให้เห็นกันในช่วงหน้าร้อน เป็นดอกสีขาวค่อนข้างใหญ่เป็นพิเศษ และในปัจจุบันก็มีบางพันธุ์ที่ถูกพัฒนาให้ดอกเป็นสีชมพูอ่อนและชมพูเข้มด้วย

ดาวล้อมเดือน

โดยปกติของ CACTUS ต้องบอกว่าเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายอยู่แล้ว บางคนที่เคยเห็นการเลี้ยงของคนที่รู้จักหรือคนอื่น ๆ ทั่วไปและมองว่าเขาไม่ค่อยดูแลเลย หรือไม่ค่อยใส่ใจ ทิ้งให้น้องดาวล้อมเดือนอยู่แบบนั้นไม่ค่อยได้รดน้ำหรือทำอะไรเท่าไร ก็อยากให้รู้ไว้ก่อนอันดับแรกว่าด้วยความอึดถึกทนของเขาตั้งแต่แรกที่วิวัฒนาการมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ทำให้เขาแทบจะอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งเราเลยด้วยซ้ำ (ยกเว้นตอนเพาะพันธุ์นะ)

          ดาวล้อมเดือนแคคตัสที่สามารถอยู่ได้ทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าหน้าร้อน หน้าหนาว หรือหน้าฝน ทำให้การดูแลเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก สิ่งที่เราต้องทำคือให้สังเกตว่าดินของเขามีความชุ่มชื้นหลงเหลืออยู่ไหม หากว่าไม่ก็ให้รดน้ำเติมลงไปแต่ไม่ต้องรดในปริมาณที่มากเกินไปและไม่ควรรดน้ำให้เขาบ่อยด้วยนะ ว่ามีโอกาสที่จะทำให้เขาเน่าตายได้ จากนั้นเราก็คอยสังเกตเขาเหมือนเดิม โดยปกติแล้วการรดน้ำหนึ่งครั้งสามารถอยู่ได้ประมาณ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับบริเวณสถานที่ที่เรานำเขาไปตั้งไว้ หากอยู่ในห้องที่ไม่ร้อนเลยบางทีก็สามารถอยู่ได้ถึงประมาณ 4-5 วันเลยโดยไม่ต้องรดน้ำเพิ่มเลยด้วยนะ

          หากใครอยากใส่ปุ๋ยเพื่อให้ดาวล้อมเดือนสุขภาพดีก็ทำได้นะ แต่แนะนำว่าใส่อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว และแน่นอนว่าเขาเป็นพืช เพราะฉะนั้นการได้รับอาหารไม่ใช่เพียงจากดินและน้ำเท่านั้น แต่เป็นการสังเคราะห์แสงด้วย เราก็ควรนำเขาไปวางในที่ที่จะทำให้มีแดดสาดส่องเข้ามาถึง ไม่ว่าจะแดดอ่อนบางแค่ไหน หรือแดดร้อนจัดแค่ไหน เขาก็สามารถดำรงอยู่ได้ทั้งนั้น เพียงแค่ต้องระวังเรื่องความชื้นของดินที่แปรผันตามแสงแดดเท่านั้นเอง

ดาวล้อมเดือน

และสำหรับใครที่ต้องการปลูกดาวล้อมเดือนเองกับมือ ไม่อยากได้จากการซื้อและนำมาเลี้ยงต่อ ก็สามารถทำได้เช่นกัน หลัก ๆ แล้ววิธีการเพาะพันธุ์ของเขาจะมีอยู่ทั้งหมด 2 วิธีคือ 1.วิธีการชำหน่อ จากที่ทุกคนสังเกตเห็นและเราได้กล่าวไปข้างต้น แคคตัสดาวล้อมเดือนนับว่าเป็นอีกหนึ่งพันธุ์ที่มีหน่อเยอะมาก การเพาะพันธุ์ด้วยวิธีนี้จึงรวดเร็วและได้จำนวนที่เยอะสุด ๆ วิธีทำก็ง่ายมาก ๆ คือเด็ดหน่อของเขาออกมาดูว่าตำแหน่งที่ฉีกขาดนั้นมีรอยแผลใหญ่ไหม ถ้าใช่ก็ให้พักเขาทิ้งไว้ให้แผลส่วนนั้นแห้งลงก่อน เมื่อแห้งก็ให้นำลงดินและปลูกต่อได้เลยทันที หรือถ้าไม่มีรอยแผลเลยก็ปลูกได้เลยทันที เสร็จจากนั้นก็รดน้ำดูแลเขาได้อย่างปกติรอวันที่เขาโตได้เลย

          ส่วนอีกวิธีหนึ่งเหมาะสำหรับสายแอดวานซ์ที่เชี่ยวชาญในการดูแลต้นไม้ดาวล้อมเดือนมาเป็นอย่างดี วิธีที่ 2.เป็นการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เราจะทำได้จากการผสมเกสรดอกของต้นดาวล้อมเดือน กระบองเพชร แบบข้ามต้นด้วยนะ วิธีนี้ไม่สามารถทำได้ในต้นเดียวกัน จากนั้นให้รอจนติดเป็นฝัก และค่อยนำเมล็ดของเขาไปล้างเมือกออก จากนั้นให้ทิ้งไว้จนแห้ง ประมาณ 2-3 วัน และค่อยนำไปลงดิน โดยดินที่ใช้จะผสมไปด้วย กรวด ทราย และดิน สามสิ่งนี้จะแยกจากกันไม่ได้สำหรับต้นกระบองเพชร นำเมล็ดที่แห้งดีแล้วโรยบนดิน จากนั้นก็พรวนดินเบา ๆ เล็กน้อยและรดน้ำ แค่นี้ก็รอเวลาโตของเขาได้เลยเช่นเดียวกับวิธีที่หนึ่ง แต่ก็ขอเตือนไว้อีกเรื่องเช่นกันว่าเป็นวิธีที่ค่อนข้างยาก หากไม่เชี่ยวชาญจะทำให้เสียเวลาไปเยอะพอสมควรเลย

          ส่วนข้อดีของดาวล้อมเดือน แม้คนส่วนใหญ่จะเห็นว่าก็แค่ต้นไม้ที่น่ารัก ๆ วางตรงไหนก็สวยตรงนั้น หรือมีดอกไม้บ้างนิดหน่อยก็แค่นั้นไม่เห็นมีอะไรแตกต่างไปจากต้นไม้ต้นอื่น ๆ ที่เขากำลังฮิตกันตอนนี้เลย ขอบอกเลยว่านี่เป็นความคิดที่ผิดสุด ๆ เพราะข้อดีนอกเหนือจากที่กล่าวไปนั้น ดาวล้อมต้นกระบองเพชรดาวล้อมเดือนยังช่วยในการฟอกอากาศให้ดีขึ้นได้ด้วยนะ แน่นอนว่าต้นไม้ทุกชนิดบนโลกจะต้องผลิตออกซิเจนออกมาอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ แต่กระบองเพชรพันธุ์นี้สามารถดูดสารพิษในอากาศให้ออกไปได้ด้วย

          และนอกจากนี้ ดาวล้อมเดือนที่ได้พูดถึงที่มาของเขาไปแล้วในข้างต้นนั้น แต่ก็ยังมีความเชื่ออยู่อีกด้วยว่า หากใครได้เลี้ยงต้นไม้พันธุ์นี้ เขาจะช่วยในเรื่องของการเสริมดวงและบารมีให้แก่ผู้ปลูกและผู้ดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอำนาจและบริวาร หากใครที่เป็นเจ้าคนนายคนแต่ดูจากภายนอกแล้วไม่ค่อยมีรัศมีของการเป็นผู้นำ

ดาวล้อมเดือนก็สามารถช่วยเสริมในด้านนี้ให้ผู้เป็นบริวารเชื่อฟังมากขึ้นได้ด้วย และนอกจากนี้แล้ว บริวารก็ไม่ใช่เพียงลูกน้องหรือลูกจ้างเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนที่จะเข้ามาจีบ เข้ามาทำความรู้จัก หรือคนที่อยากจะเข้ามาศึกษากับเราให้มีเยอะมากขึ้น และหากใครที่ไม่มีก็จะทำให้มีในเร็ววัน ขอบอกเลยว่าเป็นต้นไม้จิ๋ว ๆ เล็ก ๆ น่ารัก ๆ แต่กลับมีพลังอิทธิฤทธิ์ที่สูงส่งยิ่งใหญ่มาก ๆ เลย

ดาวล้อมเดือน

ต้นไม้ที่คุ้มค่า คุ้มราคา ต้องดาวล้อมเดือน

          ก็จบไปแล้วสำหรับการมาแนะนำ ดาวล้อมเดือนอีกหนึ่งในพันธุ์ของต้นกระบองเพชรที่น่าสนใจที่จะนำมาครอบครองเป็นที่สุด เพราะนอกจากความสวยงามและน่ารักของเขาที่สามารถนำไปประดับได้ทุกมุมห้องหรือเรียกได้ว่าแทบจะทุกสถานที่แล้วนั้น ยังดูแลง่าย ปลูกง่าย เอาลงกระถางเพียงไม่กี่วันก็โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว หากปลูกแล้วจะไม่รู้สึกเสียเวลาเหมือนต้นไม้พันธุ์อื่น ๆ แน่นอน

และนอกจากนี้ ด้วยความเป็นต้นไม้ฟอกอากาศและต้นไม้มงคลในเวลาเดียวกัน หากยิ่งปลูกก็ยิ่งดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ ยิ่งปลูกยิ่งบารมีจับ มีออร่า ประหนึ่งกำลังบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันเลย และที่สำคัญ ต้นดาวล้อมเดือนสามารถหาซื้อได้ง่าย มีขายตามร้านต้นไม้ทั่วไป และราคายังถูก สามารถจับต้องได้ด้วย เพียงเริ่มต้นแค่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อยเท่านั้น หากใครกำลังมองหาต้นไม้ดี ๆ และมีความหมาย ของลองดาวล้อมเดือน

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

กระดังงา ไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับทั้งปลูกประดับและให้ร่มเงา

กระดังงา

กระดังงา เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบได้มากในแถบประเทศอินโดนีเซียฟิลิปปินส์ รวมไปถึงประเทศไทยเราด้วย โดยกระดังงานั้นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่สิ่งที่ทุกสายพันธุ์มีเหมือนกันคือ ดอกของมันจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ซึ่งนับว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของไม้ชนิดนี้

กระดังงา

กระดังงา ไม้ประดับที่ทั้งดูแลง่าย และทนความร้อนได้ดี

            กระดังงานับว่าเป็นหนึ่งในไม้ประดับที่ค่อนข้างได้รับความนิยม แม้ว่าในภายหลังไม้แคระ กระบองเพชร และไม้อวบน้ำจะได้รับความนิยมแซงหน้า แต่ไม้ชนิดนี้ก็ยังคงถูกเลือกนำมาปลูกประดับในบ้าน หรือ สถานที่ที่ค่อนข้างมีพื้นที่อยู่พอสมควร เนื่องจากกระดังงานั้นดูแลค่อนข้างง่าย โตเร็ว และที่สำคัญคือเหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเราเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเลือก พันธุ์กระดังงา ใดมาปลูกก็อาจจะไม่ใช่เรื่องยากเท่าที่ควร

กระดังงา

วิธีดูแลกระดังงา

            การดูแลกระดังงาแต่ละช่วงวัยนั้นจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งสำหรับวิธีดูแลกระดังงาในวันนี้ที่เราจะนำมาแนะนำคือการดูแลกระดังงาที่ปลูกในกระถางอายุไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งสามารถใช้ได้กับทั้งกระดังงาไทย, กระดังงาสงขลา, กระดังงาเขา และสายพันธุ์อื่น ๆ อีกมากมาย โดยขั้นตอนในการดูแลมีดังนี้

กระถาง ภาชนะในการปลูก หากไม่ต้องการปลูกลงดินเราแนะนำให้ปลูกในกระถางที่มีขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 12 นิ้วขึ้นไป เนื่องจากจะช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกระถางอยู่บ่อย ๆ และทำให้ต้นไม้มีพื้นที่ในการขยายรากได้มากขึ้น

ดิน แนะนำให้ใช้เป็นดินร่วน ที่ผสมกับขุยมะพร้าวสับ ปุ๋ยคอก หรือใบก้ามปูหมัก ในปริมาณ ¼ ส่วน

น้ำ หากเป็นต้นไม้ที่อยู่ในวัยไม่เกิน 3 เดือน เราแนะนำให้รดน้ำในช่วงเช้า – เย็น หรือ สัปดาห์ละ 4 – 5 ครั้ง ตามสมควร โดยให้สังเกตไม่ให้ดินแห้ง หรือแฉะจนเกินไป

แสง ไม้ที่อยู่ในช่วงวัยนี้ไม่ควรให้โดนแดดจัดตลอดทั้งวัน โดยแนะนำให้รับแสงอ่อน ๆ ตลอดทั้งวันจะดีที่สุด หรือหากใครที่ปลูกในร่มเราแนะนำให้วางกระถางในตำแหน่งที่มีแดดส่องถึง โดยเฉพาะแสงแดดช่วงเช้า

ปุ๋ย นอกจากปุ๋ยคอกที่ผสมอยู่ในดินตั้งแต่ในช่วงปลูก เราแนะนำให้ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือ หรือปุ๋ยชนิดอื่น ๆ ประมาณปีละ 4 – 5 ครั้ง

ต้นกระดังงาราคาเริ่มต้นเพียงหลักสิบ แถมยังหาซื้อได้ง่าย

            สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากได้กระดังงา มาปลูกประดับบ้าน หรือสวน ปัจจุบัน ต้นกระดังงา ก็ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย ซึ่งสามารถซื้อได้จากช่องทางออนไลน์ และหน้าร้าน โดยต้นกระดังงาแต่ละสายพันธุ์ และแต่ละช่วงวัยก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งกระดังงา ราคา จะอยู่ที่ราว ๆ ต้นละ 40 – 4,500 บาท นอกจากนี้ยังมีไม้ล้อมที่จะมีราคาสูงถึงหลักหมื่น ซึ่งส่วนใหญ่นิยมนำไปตกแต่งสวนในบ้าน หรือร้านอาหาร เป็นต้น

กระดังงา
Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

พวงชมพู ไม้ประดับดอกสวย และเหมาะนำไปปลูกเป็นซุ้มประตูที่สุด

พวงชมพู

พวงชมพู เป็นไม้เลื้อยที่มีดอกสวย และนิยมนำมาปลูกประดับบ้านและสวนเป็นอย่างยิ่ง โดยไม้ประดับชนิดนี้ค่อนข้างที่จะโตเร็ว ดูแลง่าย และที่สำคัญยังเหมาะกับการปลูกเพื่อทำเป็นไม้ประดับเป็นซุ้มประตูและรั้วดอกไม้เป็นอย่างยิ่ง

พวงชมพู

พวงชมพู ดูแลง่าย ขยายพันธุ์ได้เร็ว

            พวงชมพูเป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศเม็กซิโก โดยดอกของพวงชมพูจะมีทั้ง พวงชมพูสีขาวและสีชมพู ซึ่งกลายมาเป็นชื่อเรียกที่เราเรียกกันจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งชื่อเรียกของของไม่ชนิดนี้จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นของไทยเช่น ชมพูพวง, หงอนนาก หรือ พวงนาก เป็นต้น แต่ดูเหมือนว่า หากเราลองนำชื่อเรียกต่าง ๆ เหล่านี้ไปค้นหาในอินเทอร์เน็ตก็จะพบว่าลักษณะของดอกของต้นไม้ทั้ง 3 ชื่อที่เรายกตัวอย่างมาข้างต้นจะมีความแตกต่างจาก ดอกพวงชมพู ที่เรารู้จักอย่างสิ้นเชิง

นอกจากนี้แล้วพวงชมพูยังนับว่าเป็นพรรณไม้ที่โตค่อนข้างเร็ว ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี และที่สำคัญเมล็ดของมันยังสามารถลอยน้ำได้ ดังนั้นการขยายพันธุ์มันจึงค่อนข้างที่จะรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นใครที่อยาก ปลูกพวงชมพูในกระถาง หรือปลูกลงดินก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยข้อควรระวังสำคัญในการดูแลไม้ชนิดนี้คือ ระวังไม่ให้ดินเฉะ หรือรดน้ำในปริมาณที่มากจนเกินไป และควรปลูกในดินที่มีคุณสมบัติระบายน้ำได้ดีเช่นดินร่วม ที่สำคัญคือต้นไม้ชนิดนี้ชอบแดดมากพอสมควร ดังนั้นจึงควรปลูกในที่ที่มีแสดงแดดส่องถึงตลอดทั้งวันนั่นเอง

พวงชมพู

วิธีขยายพันธุ์ของต้นพวงชมพู ทำง่าย ๆ แต่ได้ผลดี

            สำหรับขยายพันธุ์พวงชมพู หรือ วิธีปลูกพวงชมพู ก็ไม่ได้ยากอย่างที่หลาย ๆ คนคิด เพราะอย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า เมล็ดของ ต้นพวงชมพู สามารถลอยน้ำได้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ได้ชิดกระจายตัวและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นใครที่อยากปลูกหรืออยากเพาะพันธุ์ไม้ชนิดนี้จึงสามารถนำเมล็ดของมันมาเพาะโดยตรง หรือจะนำกิ่งของมันมาปักชำก็ได้เช่นกัน

          โดยการเพาะจากเมล็ด หรือกิ่งก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก โดยให้เราเตรียมดินที่เป็นดินสำหรับเพาะพันธุ์พืชทั่วไปเช่น ดินร่วม 2 ส่วน ผสมขุยมะพร้าวสับ 1 ส่วน และปุ๋ยคอกอีก 1 ส่วน จากนั้นให้นำกิ่ง หรือเมล็ดลงไปเพาะในดิน และรดน้ำให้ชุ่ม จากนั้นให้รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยรดเป็นช่วงเช้าวันละ 1 ครั้ง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถขยายพันธุ์ดอกไม้สุดสวยได้อย่างจุใจ

ข้อดีของการขยายพันธุ์ไม้ด้วยการปักชำกิ่ง

            สำหรับใครที่กำลังลังเลใจอยู่ว่าควรเลือกขยายพันธุ์พวงชมพู จากเมล็ด หรือปักชำกิ่งจึงจะดีที่สุด ซึ่งเราขอแนะนำเช่นนี้ว่า สำหรับการปักชำกิ่งนั้นจะช่วยร่นระยะเวลาในการเติบโตของพรรณไม้นั้น ๆ ให้โตเร็วกว่าการนำเมล็ดมาเพาะ และช่วยให้ลดการกลายพันธุ์ในพืชได้ค่อนข้างดี แต่วิธีนี้คุณจำเป็นจะต้องมีต้นพันธุ์ที่แข็งแรงเสียก่อน แต่หากเป็นการเพาะจากเมล็ดก็สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ หรือหากใครที่ไม่สะดวกเพาะเองคุณก็สามารถซื้อต้นกล้า หรือต้นพวงชมพูขนาดที่เหมาะกับการนำมาปลูกต่อก็ได้เช่นกัน โดยราคาของต้นพวงชมพูจะอยู่ราว ๆ 100 – 600 บาทเท่านั้น

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

เฟิร์นข้าหลวง ไม้ประดับที่สวยเป็นเอกลักษณ์และเหมาะกับการปลูกในไทยที่สุด

เฟิร์นข้าหลวง

เฟิร์นข้าหลวง นับว่าเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่คนไทยเราให้ความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทั่วไปในแถบที่มีอากาศร้อน และอบอุ่น เช่นเอเชีย และออสเตรเลีย ซึ่งประเทศไทยก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เป็นแหล่งกำเนิดของเฟิร์นชนิดนี้ด้วย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเฟิร์นชนิดนี้ยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป อีกทั้งยังดูแลง่าย และมีขั้นตอนที่ไม่จุกจิกเกินไปด้วย

เฟิร์นข้าหลวง

เฟิร์นข้าหลวง ดูแลไม่ยาก และไม่ต้องห่วงเรื่องของอากาศที่ร้อนเกินไปด้วย

            เฟิร์นข้าหลวงเป็นไม้ประดับที่มีชื่อเรียกหลากหลายชื่อด้วยกัน เช่น เฟิร์นข้าหลวงหลังลาย, เฟิร์นรังนก หรือ เฟิร์นข้าหลวงโอซาก้า เป็นต้น และตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า เฟิร์นข้าหลวงเป็นไม้ที่เกินในแถบพื้นที่ที่มีความร้อนชื้น หรือเขตอบอุ่น ดังนั้นจึงมีหลายคนที่อาจจะสงสัยว่า เฟิร์นข้าหลวงชอบแดดไหม ก่อนอื่นเราต้องขอบอกว่า การที่เราจะพบเห็นเฟิร์นชนิดนี้ได้ตามธรรมชาตินั้น เราจำเป็นจะต้องเข้าไปในป่าที่เป็นป่าดิบชื้น หรือ ป่าฝนเขตร้อน เนื่องจากสภาพของป่าประเภทนี้จะเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเฟิร์นชนิดนี้เป็นอย่างยิ่งดังนั้นคำตอบคือ “เฟิร์นข้าหลวงไม่ชอบแสงแดดจัด” เพราะถึงแม้ว่าเฟิร์นชนิดนี้จะเกินในแถบที่มีอากาศร้อน แต่การที่เฟิร์นได้รับแดดโดยตรง หรือแดดจัดทั้งวันจะทำให้เกิดผลเสียกับเฟิร์นเป็นอย่างมาก และแสงแดดจัดก็ไม่เหมาะกับสภาพของการเจริญเติบโตของเฟิร์นชนิดนี้ด้วย

          นอกจากนี้สำหรับ การดูแล เฟิร์นข้าหลวงในเบื้องต้น สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ชนิดนี้ไว้ในสวนของบ้าน เราแนะนำให้รดน้ำให้ชุ่ม โดยควรรดทั้งช่วงเช้าและเย็น และเลือกวางตำแหน่งของกระถาง หรือตำแหน่งของการปลูกให้อยู่ในที่ที่มีร่มเงา มีความชุ่มชื่นตลอดทั้งวัน เช่นใกล้กับต้นไม้ใหญ่ บ่อปลา หรืออ่างบัว เป็นต้น ควรมีแสงแดดอ่อน ๆ ส่องถึงบ้าง สำหรับการใส่ปุ๋ย เราแนะนำให้ใส่เป็นปุ๋ยเม็ด หรือปุ๋ยละลายช้า ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายไม้ประดับ และแนะให้ใส่ 3 – 6 เดือน/ครั้ง และไม่ควรใส่ปุ๋ยในปริมาณที่มากจนเกินไป

ราคา และ 3 ร้านขายเฟิร์นข้าหลวงบน Instagram

            สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากได้เฟิร์นข้าหลวง มาปลูกประดับสวน วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับราคา และ 3 ร้านขายเฟิร์นข้าหลวงบน Instagram มาฝาก โดยเฟิร์นข้าหลวง ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 25 – 500 บาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาด และสายพันธุ์ของเฟิร์น

3 ร้านขายเฟิร์นข้าหลวงบน Instagram

เฟิร์นข้าหลวง

saiwari02 จำหน่ายเฟิร์น และบอนกระดาดยักษ์ที่มีราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น และที่สำคัญทางสวนยังมีการจัดโปรโมชั่นอยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าร้านบน LAZADA อีกด้วย

เฟิร์นข้าหลวง

Sookchewagarden จำหน่ายไม้ประดับ ไม้ใบ ไม้ฟอกอากาศ รวมไปถึงเฟิร์นข้าหลวงหลายชนิดเช่นเฟิร์นข้าหลวงใบหยัก (ใบจีบ) นอกจากนี้ทางร้านยังมีหน้าร้านอยู่ที่ตลาดต้นไม้สบายใจล็อคC2-C3 ทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

เฟิร์นข้าหลวง
  • thetree.mint จำหน่ายต้นไม้ฟอกอากาศ และต้นไม้มงคลหลากหลายชนิดที่มีขนาดเล็กมินิ เหมาะกับการนำไปวางประดับไว้ในบ้าน หรือเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษเป็นอย่างยิ่ง
เฟิร์นข้าหลวง

เฟิร์นข้าหลวง ไม้ประดับที่ไม่เหมาะกับการวางประดับในพื้นที่ปิด

            เนื่องจากเฟิร์นข้าหลวงในช่วงโตเต็มวัย ใต้ใบของมันจะมีสปอร์เล็ก ๆ อยู่ ซึ่งเป็นธรรมชาติของพืชหรือตระกูลสาหร่าย เห็ดรา รวมไปถึงเฟิร์น ซึ่งสปอร์นับว่าเป็นสิ่งที่พืชเหล่านี้ใช้ในการสืบพันธุ์ และหากเมื่อเฟิร์นต้นนั้นพร้อมขยายพันธุ์มันก็จะปล่อยสปอร์ของมันลอยฟุ้งขึ้นไปในอากาศเพื่อไปเติบโตในที่ที่เหมาะสม ซึ่งสปอร์จะค่อนข้างเป็นอันตรายต่อมนุษย์ หรือสัตว์เลี้ยงบางชนิด ดังนั้นหากวางเฟิร์นชนิดนี้ไว้ในพื้นที่ปิดเช่นตัวห้อง หรืออาคารก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายของเราและสัตว์เลี้ยงได้

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

กระดาด ไม้ประดับใบใหญ่อลังกาลที่ทุกคนต่างตามหา

กระดาด

กระดาด หากพูดถึงไม้ประดับที่มีใบใหญ่ๆ เป็นเอกลักษณ์ หลายคนก็คงจะนึกถึงต้นกระดาดเป็นอันดับแรกแน่ๆ เพราะด้วยความที่ขนาดใบมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าหน้าของเราอีก นับว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความแปลกแหวกแนวกว่าต้นอื่น ซึ่งหลาย ๆ คนก็ชอบและนิยมหาซื้อเอาไปจัดบ้านหรือแต่งสวนหย่อม ทำให้บ้านของคุณมีเย็น สบาย มีความมินิมอล นอกจากจะเป็นต้นไม้ที่นิยมแล้วยังมีราคาที่พุ่งสูงมากๆ ยิ่ง กระดาด ตัวไหนที่เป็นด่างนะ สูงถึงหมื่นก็มีมาให้เห็น มาถึงตรงนี้หลายคนก็คงจะสงสัยว่าเจ้ากระดาด พันธุ์ไม้ประดับต้นนี้มีดีอะไร ทำไมถึงฮิต วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเจ้าต้นไม้ต้นนี้กัน

กระดาด พันธุ์ไม้ยักษ์ที่กำลังเป็นที่ต้องการ

กระดาด

กระดาดหรือที่หลายๆ คนชอบเรียกว่า บอนกระดาด มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นไม้ล้มลุก ที่มีเหง้าอยู่ตามพื้น ลำต้นของมันก็จะตรง โดยจะสูงไม่มากเท่าไหร่ จะสูงประมาณ 1 – 2 เมตร ส่วนใบจะเป็นใบเดี่ยว ที่ออกมาจากดิน มีลักษณะกลม โคนเว้าเข้า เหมือนเป็นรูปหัวใจ ซึ่ง ขนาด ใบกระดาด นั้นจะมีขนาดใหญ่มาก สามารถกว้างได้มากถึง 60 เซนติเมตร ยาวประมาณ 90 เซนติเมตร ก้านจะมีสีม่วงปนน้ำตาล สำหรับต้น กระดาดจะเป็นไม้ที่ออกดอกเป็นช่ออยู่ตรงกลางต้น และมีผลสดเป็นผลนุ่มสีแดง ลักษณะเหมือนเมล็ดอยู่ข้างใน

วิธี การปลูกกระดาด ปลูกได้แบบไม่ยาก

1.ขั้นตอนแรกเตรียมดินให้พร้อม โดยควรใช้ดินที่เป็นดินเหนียว แล้วขุดหลุมขนาดกว้าง 30 ซม. ลึก 30 ซม. และยาว 30 ซม. และเมื่อขุดเสร็จแล้วก็นำปุ๋ยมาไว้ที่ก้นหลุมเพื่อเป็นสารอาหารในตอนแรกก่อน ซึ่งตรงที่จะปลูกควรเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นเยอะๆ

2.ขั้นตอนที่ 2 นำต้นกล้าลงในหลุมและกลบให้เรียบร้อย แต่ไม่ต้องกลบแน่นจนเกินไป หลังจากนั้นรดน้ำเยอะๆ เพราะพันธุ์ไม้นี้ชอบน้ำมากๆ แม้ว่าจะชอบน้ำมากยังไงก็ไม่ควรปลูกในน้ำเพราะจะได้สารอาหารไม่เต็มที่

การดูแลก็ต้องใส่ใจเพื่อให้ใบนั้นสวยงาม

  • กระดาดควรจะปลูกในดินเหนียวหรือดินร่วนเพื่อเก็บน้ำหรือความชื้นได้ดี
  • การรดน้ำ สามารถรดน้ำได้เยอะๆ เลย น้ำขังได้ยิ่งดี เพื่อให้ต้นกระดาด ได้รับความชื้นตลอดเวลา
  • สำหรับแสงแดด ควรเป็นแดดรำไร ไม่จัดมาก เพราะว่าถ้าแดดจัดเกินไปจะทำให้ขาดน้ำและใบไหม้ได้
  • การให้สารอาหารหรือเติมปุ๋ย ควรใส่ทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบ

ไม้ประดับและไม้ฟอกอากาศ

กระดาด

สำหรับต้นกระดาด แล้ว ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่ง ต้นไม้สวยงาม ที่สามารถเลี้ยงได้ทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ๆ เอามาแต่งบ้านก็ได้ แต่งสวนก็ดี นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ที่สามารถดูดซับสารพิษ ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ เพิ่มออกซิเจนให้แก่บ้านเราได้ ไม่เพียงเท่านั้นทุกส่วนของต้นไม้ชนิดนี้ยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมายทั้ง ต้น ราก หรือเหง้าจะช่วยรักษาอาการท้องผูก น้ำจากก้านสามารถดื่มเป็นยาแก้ไอได้ หรือจะเอาเหง้ามาประกอบอาหารด้วยก็ได้

ปักหมุด ปักราคา

ปัจจุบันกระดาด สามารถขายได้ทุกส่วนของต้นเลย ไม่ว่าจะเป็นใบ หรือเหง้า โดย ต้นบอนกระดาด ราคา จะเริ่มตั้งแต่หลักร้อยบาทขึ้นไปถ้าเป็นพันธุ์ธรรมดาก็จะได้ราคานี้เลย  ส่วนพันธุ์ที่หาได้ยาก เช่นกระดาด ด่าง หรือกระดาด ที่ใบใหญ่ๆ ก็จะเริ่มตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักหมื่นได้เลย ส่วนแหล่งที่ควรปักหมุดก็จะเป็นตลาดต้นไม้จตุจักรเลย มีต้นนี้แน่นอน หรือใครที่สนใจแต่ไม่อยากจะเสี่ยงโรคระบาดช่วงนี้ก็สามารถหาซื้อผ่านทางออนไลน์ได้ ทั้งกลุ่มในเฟสบุ๊คหรือ Shopee ก็ได้เหมือนกัน ใครที่อยากจะเลี้ยงก็สามารถเลือกได้ตามใจเลย

สนับสนุนโดย https://pgslot-89.com/ pg slot ค่ายเกมส์สล็อตออนไลน์สุดฮิต เล่นง่าย จ่ายจริง https://pgslot-89.com/

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

ตะแบก ไม้ยืนต้นสวยงามปลูกเลี้ยงก็ได้ ปลูกประดับก็ดี

ตะแบก

ตะแบก ไม้ใหญ่อีกหนึ่งชนิดที่หลาย ๆ คนคงจะเคยได้เห็นผ่านตามาแล้วบ้าง ทั้งในสวนสาธารณะ ริมถนนหรือสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นไม้ขนาดใหญ่ที่จะคอยให้ร่มเงา โดยพรรณไม้นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ดอกของมัน เพราะเมื่อถึงฤดูผลิดอกเป็นสีชมพูสะพรั่งเต็มต้น แล้วยิ่งปลูกหลายๆ ต้นก็จะยิ่งให้วิวทิวทัศน์แถมนั้นออกมาสวยจนกลายเป็นแลนด์มาร์คเอาไว้ถ่ายภาพได้เลย ซึ่งความสวยของต้นไม้ชนิดนี้ก็ทำให้กลายเป็นไม้ใหญ่ที่นิยมจะเอามาปลูกเพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ต้นตะแบก มักจะถูกจำสลับกับต้นเสลา หรือ ต้นอินทนิล แต่ที่จริงแล้วมันคนละต้นกันเลย ในวันนี้เลยจะมาพาทุกคนไปชมและทำความรู้จักกับตะแบก ต้นไม้ต้นนี้กัน

ตะแบก ต้นไม้ดอกสีชมพูที่มองเท่าไรก็ฟิน

ตะแบก

ตะแบกเป็นต้นไม้เนื้อแข็งที่มีชื่อเรียกหลากหลายตามภูมิภาค หากเป็นทางเชียงใหม่จะเรียกว่า แลนไห้ ชาวนครราชสีมาจะเรียกว่าเปลือยดง จังหวัดสุราษฎร์จะเรียกว่าต้นอ้าย โดยต้นไม้ชนิดนี้เป็นยืนต้นที่พบได้ทั่วเอเชีย จะอยู่ตามป่าดงดิบซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วน ลักษณะต้นตะแบก จะสูงประมาณ 15 – 20 เมตร ลำต้นเรียบเป็นมัน มีสีเทา คล้ายกับเปลือกของต้นฝรั่ง แต่จะมีจุดด่างขาวอยู่รอบๆอยู่ตามลำต้นเป็นจุดต่าง ส่วนใบของต้นตะแบก จะมีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายใบจะทู่ โคนจะโค้งมน ท้องใบจะสีเขียว ดอกของตะแบก จะเป็นช่อโตอยู่ปลายกิ่งตามส่วนต่างๆ จะมีสีขาว สีชมพู หรือสีม่วงอมชมพูอ่อนๆ ซึ่งจะผลิดอกในช่วงฤดูร้อนในเดือน มีนาคมถึงพฤษภาคม

วิธีการดูแลต้นตะแบก ให้ออกดอกงามๆ

1.ควรให้แสงกับต้นไม้ชนิดนี้ตลอดทั้งวัน เพราะตะแบก ชอบแดดจัด

2.ควรรดน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

3.ควรใช้ดินร่วนซุยที่มีความชื้นปานกลาง

4.การให้สารอาหารเพิ่มเติมโดยใช้ปุ๋ยหมัก ให้ 3 เดือนครั้งก็เพียงพอ

ประโยชน์ของต้นตะแบก ที่ไม่ได้มีดีแค่สวย

  • เปลือก ใช้ปรุงเป็นยาช่วยแก้บิด
  • ขอนดอก ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ปอด และตับ
  • ดอก ใช้แก้อาการหน้ามือ ตาลาย ใจสั่น แถมยังแก้เหงื่อ ขับเสมหะอีกด้วย
  • ไม้ ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ได้ หรือใช้เป็นเชื้อเพลิงก็ได้

จะปลูกไว้ในบ้านทำได้ไหมนะ ?

ตะแบก

หลายคนก็คงสงสัยว่า ต้นตะแบก ปลูกในบ้าน จะสามารถปลูกได้หรือเปล่า เพราะว่าเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ต้องขอบอกเลยว่าสามารถปลูกในบ้านได้ ซึ่งจะคอยให้เป็นร่มเงา และยังสามารถดักจับฝุ่นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีความเชื่อโบราณอีกว่าตะแบก นั้นเป็น ไม้มงคล เชื่อว่าจะเป็นไม้ที่ช่วยค้ำจุนให้ครอบครัวอยู่อย่างสงบสุขและร่มเย็น

หาซื้อต้นตะแบก ได้จากที่ไหนบ้าง ?

ตะแบก

ตะแบกเป็นไม้ใหญ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการที่ปลูกในสวน จึงทำให้แหล่งซื้อขายต้นตะแบกนั้นหาได้ไม่ยากนัก ซึ่งก็จะมีตามร้านขายต้นไม้ หรือพันธุ์ไม้ประดับ หรือตลาดต้นไม้ก็มี

นอกจากนี้ก็ยังจะสามารถหากซื้อได้ตามตลาดออนไลน์ทั้งกลุ่มต้นไม้ใน Facebook หรือจะเป็นทางแพลตฟอร์ม Shopee กับ LAZADA ก็มีเช่นกัน โดยราคาต้นตะแบกก็จะมีตั้งแต่หลักสิบที่ยังเป็นต้นกล้าอยู่ ไปจนถึงหลักหมื่นบาทที่เป็นต้นโตเต็มที่แล้ว ใครที่อยากเลี้ยงพรรณไม้ประดับสวยงามพันธุ์นี้ก็สามารถเลือกซื้อหากันได้เลย

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

แว่นแก้ว พืชในน้ำไม้มงคล เสริมโชค ประโยชน์เยอะ

แว่นแก้ว

แว่นแก้ว หากพูดถึงคำนี้หลายคนคงจะนึกถึงสิ่งของอย่างอื่นที่เป็นแว่นๆ และไม่ใช่ต้นไม้แน่นอน ซึ่ง แว่นแก้ว นั้นเป็นต้นไม้น้ำชนิดนึงที่มีรูปร่างกลมคล้ายแว่น สามารถปลูกและเลี้ยงไว้ในน้ำได้ ถ้าจะพูดให้ง่ายๆ เพื่อให้หลายๆ คนนึกออกก็อาจจะเป็นพืชที่ชอบโดนเลี้ยงอยู่ในบ่อปลาหรือตู้ปลา นั่นแหละคือต้น แว่นแก้ว ซึ่งในปัจจุบันพืชชนิดนี้ก็นิยมเอาเลี้ยงกัน เพราะเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย ไม่ยาก มือใหม่ก็สามารถเลี้ยงได้เหมือนกัน มาถึงขนาดนี้แล้วเราก็จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้กันว่าจะเป็นพืชที่เลี้ยงง่ายยังไง

แว่นแก้ว พืชที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็น ใบบัวบก

แว่นแก้ว

แว่นแก้ว หรือจะเรียกว่า “บัวแก้ว” ก็ได้เป็นไม้น้ำที่เป็นพืชล้มลุก มีต้นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ รูปร่างคล้ายกับต้นใบบัวบกที่หลายๆ คนชอบสงสัย และมองว่ามันเป็นพืชชนิดเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เลย แม้ว่าจะมีกิ่งหรือก้านที่เลื้อยไปตามพื้นดินหรือบนผิวน้ำเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ใบของทั้งคู่ โดยใบของ แว่นแก้ว จะเป็นใบที่ค่อนข้างกลม ขอบใบหยักโค้ง ส่วนใบของต้นบัวบกจะมีส่วนหนึ่งรอยเว้าเข้าไป นอกจากนี้ แว่นแก้ว ยังเป็นต้นไม้ที่ที่เติบโตได้อย่างเร็วและสูงเพียง 5 – 15 เซนติเมตรเท่านั้น ไม่ว่าแสงจะเยอะหรือน้อยอย่างไรเจ้าต้นไม้ชนิดนี้ก็จะวิ่งเข้าหาแสงและไปเติบโตที่ตรงนั้น นับว่าเป็นพืชที่ดูแลไม่ยาก

วิธีการดูแลก็ง่ายแสนง่าย ยังไงก็ไม่ตาย

1. แว่นแก้ว ชอบดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง

2.ชอบความชุ่มชื้น ดังนั้นถ้าปลูกในดินควรรดน้ำให้มาก หรืออาจจะปลูกในน้ำหรือพื้นที่น้ำขังจะเจริญเติบโตได้ดี

3.แสงแดดไม่ต้องแรงมาก หากอยากให้ตัวใบมีสีเขียวสดก็ปลูกในที่มีแดดส่องถึงก็เพียงพอ

4.ควรบำรุงด้วยปุ๋ยทุก 3 เดือน เพื่อให้ต้นแข็งแรง

สรรพคุณของต้นแว่นแก้ว ที่คุณต้องทึ่ง!!

  • ลำต้น ใช้เป็นยาสามารถแก้พิษไข้ได้
  • นำ ใบ หรือ ลำต้น มาต้มดื่มแก้ช้ำในได้
  • ทั้งต้นก็ยังช่วยขับปัสสาวะ และใช้เป็นยาแก้บวม
  • นอกจากนี้ลำต้นยังช่วยแกอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือ ท้องเสียได้

สรรพคุณก็เยอะ ประโยชน์ก็แยะ เสริมดวงก็ได้

แว่นแก้ว

อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนยังสงสัยนอกจากว่าไม้ชนิดนี้เหมือนใบบัวบกไหม นั่นก็คือ แว่นแก้วกินได้ไหม ซึ่งหากได้อ่านสรรพคุณมาแล้วคงจะตอบได้ทันทีว่า “กินได้” นอกจาก ประโยชน์ ต้นแว่นแก้ว จะนำมาทำเป็นยาแล้วก็ยังเลี้ยงเอาไว้เก็บกินได้ด้วย บอกเลยว่าถ้าเอาใบสดมากินแกล้มกับน้ำพริกนะอร่อยที่สุดเลย ไม่เพียงเท่านั้นต้นไม้ต้นนี้ก็ยังนิยมเอามาปลูกเป็นไม้ประดับอีกด้วยเพราะมีความเชื่อที่ว่า หากบ้านไหนปลูก แว่นแก้ว ก็จะ เสริมฮวงจุ้ย ในเรื่องความร่ำรวยมั่งคั่งจะตามเทรนด์ได้ทัน ต้องหาแหล่งซื้อ

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

กันเกรา ไม้หอมของไทย แนะนำวิธีดูแล และการขายเพื่อเพิ่มอาชีพ

กันเกรา เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นสูงเต็มที่ 20 – 30  เมตร มักขึ้นอยู่ตามธรรมชาติทุกภูมิภาคของประเทศไทย มีถิ่นกำเนิดตามป่าเบญจพรรณและตามที่ใกล้กับแหล่งน้ำ ในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย เวียดนาม และอินเดีย ทั้งบริเวณที่ลุ่ม ริมน้ำ หรือ ป่าดิบ ส่วนใหญ่พบมากในภาคตะวันออกและภาคใต้

ลักษณะลำต้น มีเปลือกหยาบ สีน้ำตาลปนดำ มีรูปร่างลักษณะแตกระแหงเป็นร่อง ไม่เป็นระเบียบ ปลายกิ่งห้อยลง ใบออกเป็นคู่ ๆ ตรงข้ามกัน ใบหนาสีเขียวแก่ รูปทรงใบเป็นแบบยาวรี ปลายใบแหลม โคนใบเรียว เป็นครีบไปตามก้าน ใบยาวราว 8-12  เซนติเมตร กว้างยาว 2.5-3.5 เซนติเมตร ก้านใบยาว 1-2 เซนติเมตร

กันเกรา รายละเอียด กันเกรา ชื่อวิทยาศาสตร์

          กันเกรามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Fagraea fragrans Roxb. อยู่ในวงศ์ Loganiaceae (บางตำราว่าอยู่ในวงศ์ Potaliaceae) ส่วนกันเกรา ชื่อสามัญ ภาษาอังกฤษเรียก Tembusa ชื่อภาษาไทย กันเกรา อ่านว่า กัน-เกรา

กันเกราประโยชน์และสรรพคุณดี ๆ ที่น่าสนใจ

กันเกราเป็นต้นไม้พื้นบ้านดั้งเดิมของไทย ที่มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรรักษาโรค โดยโรงเรียนแพทย์แผนโบราณ สำนักวัดพระเชตุพนฯ บรรยายสรรพคุณเอาไว้ว่า “แก่น : รสเฝื่อน ฝาด ขม เข้ายาบำรุงธาตุ แก้ไข้จับสั่น แก้หืด ไอ มองคร่อ (โรคชนิดหนึ่ง เสมหะแห้งอยู่ในลำหลอดปอด) ริดสีดวง ท้องมาน แน่น หน้าอก ลงท้องเป็นมูกเลือด แก้พิษ ฝีกาฬ บำรุงม้าม แก้เลือดลมพิการ เป็นยาอายุวัฒนะ เปลือกบำรุงโลหิต ผิวหนังพุพอง ปวดแสบปวดร้อน” ในตำราบางเล่มมีสรรพคุณเพิ่มเติมคือ “บำรุงร่างกาย แก้ปวด ตามข้อ แก้ไข้”

  1. แก่นกันเกรา ช่วยบำรุงไขมันในร่างกาย
  2. แก่น ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
  3. เปลือกต้นช่วยบำรุงโลหิต
  4. แก่นกันเกรา มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรีย
  5. ช่วยแก้ไข้จับสั่น
  6. ช่วยแก้อาการหืดไอ
  7. ช่วยแก้อาการแน่นหน้าอก
  8. ช่วยแก้อาการท้องมาน
  9. ช่วยขับลมในกระเพาะ

10.ช่วยรักษาริดสีดวง

แนะนำกันเกรา วิธีปลูก

          กันเกรานิยมปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ด โดยจะเพาะจากเมล็ดที่ร่วงจากต้นหรือเมล็ดที่แก่จัดจากต้น และเราจะนำเมล็ดนั้นมาตากแห้ง จากนั้นนำไปเพาะลงในถุงเพาะชำ รอจนต้นมีความสูงประมาณ 15-30 ซม. จากนั้นค่อยทำการย้ายลงในที่ที่ต้องการ กันเกราการปลูก ควรมีระยะห่างประมาณ 15-25 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถปลูกได้โดยนอกจากวิธีอื่น  นอกจากวิธีการเพาะเมล็ด เช่น การปักชำ การตอนกิ่ง ทีนี้ทิศทางการปลูกหากจะว่าตามความเชื่อเกี่ยวกับทิศทาง ต้น กันเกราปลูกในบ้าน ก็ควรปลูกในทิศทางใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ

ราคาซื้อขายต้นกันเกรา

                    กันเกราถือเป็นไม้ดอกยืนต้นที่นิยมปลูกเอาไว้เพื่อเสริมความสวยงามให้กับบริเวณรอบนอกบ้าน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นต้นไม้ที่ส่งกลิ่นหอมหวานน่าชื่นใจให้กับคนที่อยู่บริเวณที่พักอาศัยอีกด้วย ที่สำคัญคือราคาไม่สูงมาก อยู่ที่สองต้นความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร 2 ต้น ราคา 150 บาท

ทำไมต้นกันเกราจึงเป็นที่นิยม

          คำถามนี้สามารถอธิบายได้แบบง่าย ๆ เลยว่าเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะใบร่วงน้อย ดูแลง่าย มีกลิ่นหอม นอกจากนั้นต้นไม้ชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยสรรพคุณต่าง ๆ มากมาย ทั้งทางเภสัชวิทยาและช่วยส่งกลิ่นหอมให้กับพื้นที่นั้น ๆ

Categories
ต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้าน

จันทน์ผา ไม้ประดับยอดฮิต เปลี่ยนบ้านให้สวยหรูมีสไตล์ด้วยต้นไม้สวย

จันทน์ผา เป็นต้นไม้ประดับที่มีความสวยงาม อีกทั้งยังราคาค่อนข้างสูง สามารถนำไปปลูกได้ในกระถาง ไม่ต้องกังวลเลยว่าต้นไม้นี้จะเคลื่อนย้ายลำบาก หรือ ว่ารากจะไปทำให้บ้านของเราพัง เนื่องจากเป็นต้นไม้ขนาดกลาง ไม่ใหญ่มากนัก ที่นิยมปลูกมากที่สุดคือ ความสูงประมาณ 1.5-3.5 เมตร แต่ต้นนี้ก็สามารถเติบโตสูงได้ถึง 16 เมตรเลยทีเดียว นิยมนำมาประดับตกแต่งบ้าน และจัดสวนสไตล์มินิมอลสวย ๆ อีกทั้งตอนเช้ากับตอนเย็น ต้นนี้จะส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกมาด้วย

จันทน์ผา ลักษณะภายนอก

จันทน์ผามีลักษณะ ใบเรียวแหลม ออกมาจากลำต้นอวบใหญ่ของต้น ใบจะมีสีเขียวเข้มสลับกับสีอ่อน จันผา ดอก เป็นช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ออกตามซอกใบมีดอกจำนวนมาก จันผา ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Dracaena cochinchinensis (Lour.) S.C.Chen ชื่อ จันผา ความหมาย คล้ายกับต้นวาสนาเพราะเป็นไม้วงศ์เดียวกัน นอกจากนี้ต้นนี้ยังอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นผักชีฝรั่งด้วยนะ

จันทน์ผาสรรพคุณและคุณประโยชน์

          จันทน์ผานอกจากในบริบทของไม้ประดับที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านและสถานที่ต่าง ๆ แล้วนั้น ยังมี สรรพคุณ จันผา ได้แก่

  1. แก่นมี รสขมเย็น ช่วยบำรุงหัวใจให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ช่วยแก้ไข้ ลดอาการไข้ได้
  3. ช่วยแก้ไอ
  4. เมล็ดสามารถใช้รักษาอาการดีซ่าน ตัวเหลือง
  5. ใช้ลำต้นช่วยแก้อาการปวดศีรษะ 
  6. ช่วยลดและแก้อาการเหงื่อตก อาการกระสับกระส่าย
  7. ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้ดีมาก

จันทน์ผาวิธีปลูกและดูแลรักษา

          จันทน์ผาวิธีขยายพันธุ์ จันผา มีวิธีหลัก ๆ อยู่ 2 วิธีคือ การเพาะเมล็ด และ การปักชำ การดูแลคือพยายามคุมปริมาณน้ำไม่ให้แฉะมากเกินไป ระยะปลูกที่เหมาะสม คือ 1-4 เมตร ทรงพุ่มของต้นนี้จะสวยงามได้ที่ก็ตอนปลูกได้ประมาณ 6-12 เดือนขึ้นไป เป็นต้นไม้ที่ทนแล้ง สามารถทนดินเค็ม และสามารถทนการปะทะของแรงลมได้ จริง ๆ ต้นไม้ชนิดนี้ดูแลค่อนข้างไม่ยากเลย ใครที่อยากได้ไม้สวย ๆ ไว้ประดับบ้านบอกเลยว่าเหมาะมาก ๆ

จันทน์ผาราคาขายอยู่ที่เท่าไร

          จันผา ราคา ปัจจุบันราคาขายจะเริ่มต้นที่ 500 บาทไปจนถึง 1000 บาท แต่ถ้าต้นนั้นมีลักษณะพิเศษสวย ๆ อย่างเป็นแบบใบด่างหรือมีสีสวยพิเศษก็สามารถอัพราคาขายได้ถึงหลักพัน ถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว

ทำไมต้นจันผาถึงกลายเป็นไม้ประดับที่นิยมมาก

          ต้นจันทน์ผาเป็นไม้ประดับที่มีเอกลักษณ์ด้วยรูปทรงที่มีความสง่าของตัวเอง ใบเรียวคมสวย เหมือนกับหอกหรือดาบ ตามความเชื่อการได้ปลูกจันผาไว้ในบ้านจะเหมือนการปกป้องอันตรายเข้าบ้านได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่มีเวลามากนักก็สามารถดูแลได้